ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์ NCR เพิ่มความยืดหยุ่นบริหารสภาพคล่องโบรกฯ

HoonSmart.com>> ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NC) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาล่วงหน้ามีเครื่องมือบริหารจัดการสภาพคล่องเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ปรับปรุงค่าความเสี่ยงให้สอดคล้องกับภาวะตลาดในปัจจุบัน และรองรับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมทั้งรวมประกาศเกี่ยวกับเงินกองทุนไว้ด้วยกัน เพื่อลดภาระของผู้ประกอบธุรกิจ ตามแนวทาง Regulatory Guillotine

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ปรับหลักเกณฑ์เงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ หลังสิ้นสุดการรับฟังความเห็นจากผู้ประกอบธุรกิจและผู้ที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2563 โดยสาระสำคัญของหลักเกณฑ์ที่ปรับปรุง ได้แก่ (1) เพิ่มให้ใช้วงเงินกู้ด้อยสิทธิทดแทนการดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ เฉพาะกรณีที่ธุรกรรมหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น (2) เพิ่มให้นับสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินกองทุนได้ และ (3) ปรับปรุงค่าความเสี่ยงของลูกหนี้บัญชีเงินสด ความเสี่ยงจากธุรกรรมการรับประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้

การปรับปรุงหลักเกณฑ์ในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผู้ประกอบธุรกิจมีเครื่องมือบริหารจัดการสภาพคล่องรองรับกรณีที่ปริมาณธุรกรรมหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปรับปรุงค่าความเสี่ยงให้สะท้อนฐานะทางการเงินอย่างแท้จริงโดยไม่สร้างภาระเกินจำเป็นและรองรับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

นอกจากนี้ ยังได้รวมประกาศเกี่ยวกับเงินกองทุนไว้ด้วยกัน เช่น ในด้านการคำนวณ การรายงาน และข้อกำหนดกรณีที่ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนได้ เพื่อลดภาระของผู้ประกอบธุรกิจในการทำความเข้าใจและง่ายต่อการนำไปปฏิบัติ (ease of doing business) ตามแนวทาง Regulatory Guillotine โดยทบทวนกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจำเป็นหรือไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน หรือที่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตหรือการประกอบอาชีพเพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชน โดยใช้วิธีที่รวดเร็ว โปร่งใส ใช้ต้นทุนต่ำ และมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ที่ปรับปรุงจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564 ซึ่งจะมีผลสำหรับการจัดทำแบบรายงานที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลงวดเดือนม.ค.2564 เป็นต้นไป