กูรูชี้เหตุ IPO ต่ำจอง ยันไม่ใช่การตั้ง ATO

HoonSmart.com>>กูรู ไอพีโอ ชี้ดราม่าหุ้น IPO ต่ำจอง  มาจากเหตุปริมาณหุ้นเข้าตลาดช่วงต.ค.-พ.ย. ติดต่อกันถึง 14 หลักทรัพย์ ไม่เกิดการเก็งกำไร หรือต้องการถือหุ้น

ปริมาณหุ้นไอพีโอ ที่เข้าซื้อขายช่วงเดือนต.ค ถึง 13 พ.ย.นี้ จำนวน 14 บริษัท หรือเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 หลักทรัพย์ นั้น ทำให้เกิดกระแสเงินจองหุ้น IPO หมุนเวียนสูง และหมุนเงินกันไม่ทัน  เพราะบางหลักทรัพย์ กำหนดช่วงเวลาจองซื้อพร้อมกัน

เมื่อจำนวนหุ้น IPO มีจำนวนมากและซื้อขายในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่เกิดการเก็งกำไรในหุ้น IPO ส่วนใหญ่หุ้นเข้ามาราคาไม่ร้อนแรงหวือหวา หรือบางบริษัทต่ำจอง  โดยเกิดกระแสว่า สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการส่งคำสั่ง ATO ก่อนเปิดซื้อขายครึ่งชั่วโมง ซึ่งคำสั่งที่ส่งเข้ามา มีลักษณะตั้งราคาสูงและต่ำมากจากราคา IPO เช่น คำสั่งตั้งราคาซื้อ 200 % เป็นราคาซิลลิ่งของหุ้นไอพีโอ หรือตั้งราคาฟลอร์ ถอนคำสั่งเข้า-ออก ทำนักลงทุนสับสนป่วนราคาหุ้นก่อนเปิด

โดยเฉพาะช่วงกลางสัปดาห์ ที่ผ่านมา ที่หุ้นใหม่ไอพีโอ เข้าซื้อขายและราคาต่ำจอง 2 บริษัท คือ SABUY (สบาย เทคโนโลยี ) และหุ้น RT (ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง) ก็มีลักษณะคำสั่ง ATO ป่วนราคาเช่นกัน เกิดคำถามว่า คำสั่งผิดปกตินี้ เป็นสาเหตุให้หุ้นทั้ง 2 หลักทรัพย์ดังกล่าวต่ำจอง

แหล่งข่าวที่ปรึกษาการเงิน  กล่าวว่า การตั้งคำสั่ง ATO ก่อนเปิดตลาดของหุ้นใหม่ไอพีโอ ไม่น่าจะเป็นเหตุให้หุ้นต่ำจอง โดยหลักการหุ้นต่ำจอง เกิดจากความต้องการขาย มากกว่าต้องการซื้อ และการตั้งใจ มีเป้าทำราคาหุ้นให้เปิดสูง จะใส่ออเดอร์ซื้อเข้ามาจำนวนมาก เมื่อเห็นว่าไม่มีใครขาย หรือควบคุมเกมส์หุ้นได้  และกรณีเห็นว่า มีคนใส่ขายเยอะ จะถอนออเดอร์ซื้อออกทันที กดราคาหุ้นเปิดต่ำได้เช่นกัน

แหล่งข่าวกล่าวว่า ไม่เชื่อว่า การตั้งราคา ATO เป็นเหตุให้ราคาเปิดต่ำจอง แต่น่าจะมาจากปริมาณหุ้นไอพีโอ ที่ออกมาขายถี่ ๆ ติดกัน ไม่เกิดความน่าสนใจเก็งกำไร หรือไม่ถือหุ้นลงทุน ซื้อไอพีโอ แล้วขายวันแรก เพื่อนำเงินไปลงทุนหุ้นไอพีโอตัวต่อไป

นอกจากนี้หากหุ้นไม่เด่นน่าสนใจ ราคาขายสูง นักลงทุนไม่ตื่นเต้นเก็งกำไรแล้ว การมีคนดูแลหุ้น ตั้งใจทำราคาหุ้น มีส่วนสำคัญด้วย ที่ทำให้เกิดการเก็งกำไร ราคาหุ้นเหนือจอง

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ การจัดสรรหุ้น การติดระยะห้ามขาย (ไซเร้นพีเรียด)  ปกติแล้วหุ้นจะติดไซเร้นพีเรียด 55 % ของหุ้นจดทะเบียน ตามกฎเกณฑ์ตลาด อีก 45 % เป็นหุ้นที่ไม่ติดไซเร้นท์ แบ่งเป็นของนักลงทุนทั่วไปและผู้มีอุปการะคุณ 25-30 % อีก 15-20 % เป็นของกลุ่มเจ้าของเดิม

” โดยปกติแล้ว หุ้นส่วนหนึ่งของกลุ่มเจ้าของเดิม ประมาณ 15-20 % ที่ไม่ติดไซเร้นท์ หรือขายได้ จะเป็นหุ้นต้นทุนต่ำ ถ้าคุยกันรู้เรื่อง และเจ้าของรู้เรื่องกิจการดี จะไม่ขายหุ้นออกมาวันแรก ยกเว้นว่า ฝากหุ้นไว้กับนอมินี (ตัวแทน ) ก็จะขายหุ้นออกมาวันแรก ซึ่งหุ้นเข้าใหม่หลายตัว ที่ราคาต่ำจอง นอกจากนักลงทุนรายย่อยขายออกมาแล้ว ยังโดนเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นเดิม ขายใส่ออกมาด้วย เห็นได้จากจำนวนหุ้นวันแรก มีปริมาณขายมากเป็นพิเศษ”

แหล่งข่าวชี้อีกว่า โครงสร้างผู้ถือหุ้น ยังมีส่วนสร้างความมั่นใจให้กับหุ้นด้วย เรียกแรงเก็งกำไรได้ตั้งแต่วันแรกและหลังเข้าตลาดหุ้น

” กรณีหุ้น RT เปิดวันแรกต่ำจอง เกิดจากปัญหาเหนือการควบคุม เป็นเรื่องดราม่าของนักลงทุน แต่ด้วยปัจจัยพื้นฐานก่อนเทรด ได้ออกงบไตรมาส 3 จะเห็นว่ากำไรดี เติบโตจากปีก่อน  บริษัทไม่มีอะไรผิดปกติ ธุรกิจมีคู่แข่งน้อย ใช้ความชำนาญเฉพาะด้าน ซึ่งเจ้าของเป็นนักธรณีวิทยา เชี่ยวชาญชั้นหิน  ไม่ใช่วิศวะ แต่คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจธุรกิจ เชื่อว่าเป็นการทุบหุ้นลงมาก่อนไล่เก็บ ได้กำไรหลายต่อ ” แหล่งข่าวกล่าวและว่า ส่วนหุ้นตัวก่อนหน้าที่เข้าและราคาต่ำจอง คาดว่าเป็นการขายของผู้ถือหุ้นเดิมที่ซื้อหุ้นจากเสี่ยนักลงทุน