SO กำไร 41 ลบ.พุ่ง 65% จาก Q2 แจกปันผล 2.60%

HoonSmart.com>>”สยามราชธานี” โชว์กำไร 41 ล้านบาท ทะยานขึ้น 64.91% จากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 44.22 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้งวดรวม 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 100.73 ล้านบาท   ได้งานเพิ่ม  บอร์ดใจดีอนุมัติจ่ายปันผลงวดระหว่างกาล 0.16 บาทต่อหุ้น  คิดเป็นผลตอบแทน 2.60%

นายจิรณุ กุลชนะรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราชธานี (SO) ผู้ประกอบธุรกิจการจ้างเหมาบริการครบวงจรชั้นนำระดับประเทศ เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/ 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ  41.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.91% จากไตรมาส 2  ที่มีกำไรสุทธิ 25.31 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 44.22 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 28.94 ล้านบาท โดยรวม 9 เดือนปีนี้ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 100.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.86 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 76.97 ล้านบาท

นายจิรณุ กล่าวว่า  ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 1,557.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.15 % แบ่งเป็นรายได้ค่าบริหารจัดการบุคลากร 1,340.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.67% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีจำนวน 1,268.12 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้หลักมีสัดส่วน 86.62% ของรายได้รวม และมีรายได้จากค่าเช่าและบริการ 178.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.36% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 144.44 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นกำไรจากการจำหน่ายทรัพย์ให้เช่ารอการขายและอุปกรณ์ จำนวน 22.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78.26% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 12.79 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ

“รายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากหน่วยงานบริหารจัดการพนักงาน ช่างเทคนิค ซึ่งบริษัทได้ทำสัญญาฉบับใหม่กับลูกค้าภาครัฐ  ในการเพิ่มจำนวนพนักงานและอัตราการจ้างงานตามสัญญาเดิมที่ทำไว้ปีก่อน รวมถึงการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากรายได้ของหน่วยงานบริหารจัดการบันทึกข้อมูล ซึ่งได้รับสัญญาการให้บริการเพิ่มเติมจากลูกค้ากลุ่มที่ให้บริการขนส่งสินค้าอีคอมเมิร์ซ โดยเป็นการบันทึกและจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าของบริษัทขนส่งเพื่อนำมาบริหารจัดการและกลุ่มโรงพยาบาล ที่ให้เราบันทึกและจัดเก็บข้อมูลคนไข้เพื่อนำมาบริหารจัดการในระบบออนไลน์” นายจิรณุกล่าว

ขณะเดียวกันบริษัทมีค่าใช้จ่าย  1,411.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.15% จากจำนวน 1,329.75 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 5.78 ล้านบาท จากลูกค้ารัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งที่เข้าสู่ขบวนการฟื้นฟูกิจการ

นายจิรณุกล่าวว่า แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวและโควิด-19 ยังคงอยู่ ธุรกิจของบริษัทสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นทั้งจากลูกค้ากลุ่มเดิมและลูกค้ารายใหม่ๆ ที่หันมาใช้บริการ Outsource เพื่อลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนระยะยาวมากขึ้น ขณะที่บริษัทมีการบริหารจัดการภายในที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยยังมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับเลข 2 หลัก และดีขึ้นเป็น 18.02% งวด 9 เดือนแรกของปีนี้ ส่วนใหญ่มาจากการบริหารจัดการช่างเทคนิค ค่าเช่าและบริการจากการต่อสัญญาระยะยาวกับลูกค้าหน่วยงานรัฐบาลรายหนึ่ง

ด้านคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 10 พ.ย 2563 จึงมีมติอนุมัติให้บริษัทจ่ายปันผลระหว่างกาลปีนี้ในอัตราหุ้นละ 0.16 บาท คิดเป็นเม็ดเงินรวม 49.60 ล้านบาท กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 24 พ.ย. 2563 และจ่ายเงินในวันที่ 9 ธ.ค.2563 ทั้งนี้เงินปันผลคิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 2.60% เทียบกับราคาปิดที่ 6.15 บาท  +0.10 บาท หรือ 1.65% ณ วันที่ 11 พ.ย.2563