HoonSmart.com>> หุ้นปิดบวกตามภูมิภาค เหนือ 1,200 จุด นักวิเคราะห์แนะมองข้ามช็อตเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ทรัมป์ -ไบเดนชนะ ต่างอัดฉีดหนุนหุ้นวิ่ง บล.ทิสโก้ มองจังหวะซื้อ 1,150-1,200 เชียร์ BAM-MTC-RBF-SAPPE-SYNEX-TPIPL ทรีนีตี้ เปิดกลยุทธ์ 3 ธีม 12 ตัว หุ้นใหญ่เน้น SCC-DELTA-CPF-HMPRO-BAM บล.เอเซียพลัสคงน้ำหนักหุ้นไทย 35%หวังเงินเข้าเอเชียมากขึ้น ยก AP-BDMS-PTTGC-SCC-STA-TISCO บล.เคจีไอ ชวนเก็บ BBL-TISCO-COM7-HMPRO-EPG-PTG-RS บล.ฟินันเซียไซรัสตีกรอบ 1,180-1,230 จุด ชอบ AP-BCH-CBG-MAKRO-ZIGA
ตลาดหุ้นวันที่ 2 พ.ย.2563 ปิดที่ระดับ 1,202.16 จุด +7.21 จุด หรือ +0.60% มูลค่าการซื้อขาย 40,738.51 ล้านบาท นักลงทุนแต่ละกลุ่มซื้อ-ขายเล็กน้อย ต่างชาติขายหุ้น 766 ล้านบาท ซื้อ SET 50 Index Futures 2,830 สัญญา
ดัชนีแกว่งขึ้นตามทิศทางตลาดภูมิภาค ได้ปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจจีน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน อยู่ที่ระดับ 53.6 ในเดือนต.ค. ถือว่าออกมาดีกว่าคาด ตลาดหุ้นยุโรปและดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก นักวิเคราะห์แนะมองข้ามช็อตเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ทรัมป์ -ไบเดนชนะ ต่างอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจ หุ้นก็ปรับขึ้น
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ เปิดเผยว่า หุ้นที่ปรับตัวลง 5 เดือนติดต่อกัน ปิดที่ต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่บริเวณ 1,200 จุด เริ่มมีโอกาสปรับตัวลงจำกัด ดัชนีต่ำกว่า 1,200 จุด P/Eเฉลี่ยต่ำกว่า 15 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยในระยะยาว และไม่แพงแล้วเมื่อเทียบกับ ดัชนี MSCI Asia ex Japan Index ปัจจุบันอยู่ที่ 14.5 เท่า จากปกติสูงกว่าเฉลี่ยเกือบ 2 เท่า ตอนนี้น่าจะดึงดูดให้เงินฝากธนาคารและตลาดเงินจำนวนมากโยกเข้าสู่ตลาดหุ้นมากขึ้น และจะเริ่มมีแรงซื้อทยอยเก็บหุ้นปันผล
บล.ทิสโก้ยังคงกลยุทธ์ทยอยสะสมต่อเนื่อง โดยลุ้นให้เดือน พ.ย. เป็นจุดต่ำสุด และมองดัชนีที่ระดับ 1,150-1,200 จุด เป็นจังหวะซื้อเพิ่มโค้งสุดท้าย แนะถือลงทุนข้ามปี ด้วยธีมเน้นหุ้นที่คาดกำไรไตรมาส 3 จะออกมาดีและไตรมาส 4 ยังดีต่อเนื่อง และธีมมีปัจจัยบวกหนุนระยะสั้น แนะนำ คือ BAM, MTC, RBF, SAPPE, SYNEX และ TPIPL โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,150-1,170 จุด แนวต้านสำคัญ 1,200-1,205 จุด ต่อไปคือ 1,220-1,225, 1,240-1,250 จุด ตามลำดับ
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ คาดแนวโน้มเดือน พ.ย.ว่ดีกว่าเดือน ต.ค. มีเป้าหมาย 1,250 จุด แนวรับสำคัญ ที่บริเวณ 1,160 จุด มองว่า ณ ขณะนี้ไม่ใช่จังหวะของการลดพอร์ตการลงทุนแต่อย่างใด ส่วนการเข้าซื้อ ยังคงโฟกัสหุ้นขนาดใหญ่มากขึ้น หลังลงมาค่อนข้างลึกสะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอไปพอสมควร ธีมสะสมหุ้นใหญ่ แนะนำ 6 หุ้น ประกอบด้วย 1. SCC เพราะ Spread ของ HDPE มีโอกาสฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง 2. DELTA มีโอกาสเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และSET100 ในรอบถัดไป และดัชนี MSCI Standard Index 3. CPF ราคาหุ้นลดลงมาแรง 4. HMPRO ได้อานิสงส์จากมาตรการรัฐ “ช้อปดีมีคืน” รวมทั้งการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยจากน้ำท่วม 5. STGT หุ้นที่มีแนวโน้มกำไรเติบโตต่อเนื่องในช่วง 3-4 ไตรมาสข้างหน้า และเข้าคำนวณดัชนี MSCI 6. BAM กำไรในช่วงครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวมาได้และมีกระแสเงินสดเข้ามามากขึ้น รวมถึงยังมีโอกาสที่จะเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 ด้วยเช่นกัน
บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดหุนเดือนพ.ย. ผ่นคลายมากขึ้น หลังปรับฐานเดือนต.ค. โดยให้กรอบความเคลื่อนไหว 1,180-1,230 จุด ทะยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน เน้นหุันที่มีกำไรไตรมาส 3 แข็งแกร่ง AP-BCH-CBG-MAKRO-ZIGA แต่หากการเมืองรุนแรงมีโอกาสหลุดต่ำเข้าหาแนวรับถัดไปที่ 1,150 จุด ส่วนแนวโน้มปี 2564 ตั้งเป้าหมาย 1,450 จุด
บล.เอเซียพลัสยังคงน้ำหนักหุ้นไทยไว้ที่ 35% คาดหวังต่อเงินไหลเข้าที่เริ่มมีการขยับมาลงทุนในฝั่งตลาดหุ้นเอเชียมากขึ้น แนะนำ AP-BDMS-PTTGC-SCC-STA-TISCO
บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) แนะนำหุ้นเดือนพ.ย. ได้แก่ BBL-TISCO-COM7-HMPRO-EPG-PTG-RS ภายใต้ธีมกลุ่มธนาคาร ผลการทดสอบ stress test จะออกมาน่าประทับใจ หุ้นที่ได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการบริโภ และหุ้น mid-cap บางตัวที่มีแนวโน้มผลประกอบการแข็งแกร่งทั้งในไตรมาส 3 และ 4
