CIMBT ลั่น 4 ปี กำไรโตจากธุรกิจแกร่ง รายใหญ่เร่งใช้เงิน สินเชื่อพุ่ง Q4/63

HoonSmart.com>>ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดกลยุทธ์ธุรกิจ ตั้งเป้า 4 ปี ลงแข่งในสนามที่ถนัดและมีจุดแข็ง ปักธงเป็นธนาคารอาเซียนชั้นนำในไทย ใช้ดิจิทัลสร้างความต่าง รักษาความเป็นผู้นำธุรกิจบริหารเงิน-ธุรกิจรายย่อย มั่นใจปี 64 กำไรฟื้นตัวหลังผ่านจุดต่ำแล้ว คาดปีนี้สินเชื่อ -5% ถึง 0% จาก 9 เดือน -5.2% ลูกค้ารายใหญ่เริ่มเบิกใช้สินเชื่อโค้งสุดท้ายปีนี้  กด NPLs เหลือ 5% ยันตั้งสำรองสูงป้องกันไว้ก่อน

สุธีร์ โล้วโสภณกุล

นายสุธีร์ โล้วโสภณกุล รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) แถลงเปิดกลยุทธ์ธุรกิจที่สอดคล้องกับกลุ่มซีไอเอ็มบี ตั้งเป้า 4 ปี คือธนาคารอาเซียนชั้นนำในไทย ใช้ดิจิทัลสร้างความต่าง พร้อมเดินหน้าแข่งขันเต็มตัวในสนามธุรกิจที่มีความถนัดและมีจุดแข็ง รักษาความเป็นผู้นำธุรกิจบริหารเงินและธุรกิจรายย่อย ควบคู่ไปกับการใช้ต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ส่วนแนวโน้มในปี 2564 คาดจะกลับมาฟื้นตัว หลังจากผ่านจุดต่ำสุดในปี 2563 ไปแล้ว โดยหันมาผลักดันสิ่งที่ได้ลงทุนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาให้มีผลตอบแทนงอกเงย ขยายฐานลูกค้ารายย่อยและรายใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ธนาคารมองเห็นถึงศักยภาพในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านสินเชื่อและผลิตภัณฑ์บริการด้านอื่น ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะ ด้านตลาดเงินและตลาดทุน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเปิดให้บริการด้านตลาดรองมากขึ้น ได้แก่ การซื้อขายตราสารหนี้ อัตราแลกเปลี่ยน และบริการรับฝากสินทรัพย์ จากปัจจุบันให้บริการเฉพาะขายตราสารหนี้ไนตลาดแรก

นอกจากนั้นยังจะผลักดันการบริการต่าง ๆ สู่ดิจิทัลมากขึ้น ปัจจุบันมีฐานลูกค้าที่ใช้บริการทำธุรกรรมผ่านโมบายล์แอปพลิเคชันอยู่ที่ 145,700 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าที่ไช้งานประจำอยู่ 115,000 ราย   สามารถลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งธนาคารตั้งเป้าลดลงเหลือ 50% ภายในปี 2567 จากปัจจุบันที่ 63.2% ของต้นทุนการดำเนินงานทั้งหมด

สำหรับการขยายฐานลูกค้าสินเชื่อ ปัจจุบันมีสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยกว่า 50% หรือกว่า 1 แสนล้านบาท จากพอร์ตรวม 2.3 แสนล้านบาท เชื่อว่าสินเชื่อรายใหญ่ยังมีศักยภาพ จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ชะลอการลงทุน และเบิกใช้สินเชื่อ คาดว่าจะเริ่มเห็นลูกค้ารายใหญ่ทยอยกลับมาลงทุน ตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตเป็น 40% จากปัจจุบัน 30% หรือมูลค่า 7.5 หมื่นล้านบาท ส่วนภาพรวมในปีนี้คาดว่าสินเชื่อจะติดลบ 5% หรือ 0% หลังจาก 9 เดือนแรกติดลบ 5.2%

ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารก็ดีขึ้น คาดปีนี้จะลดลงเหลือ 5% จากในช่วง 9 เดือนแรก อยู่ที่ 5.9% ส่วนหนึ่งมาจากการเตรียมขายหนี้ออกไป 3 พันล้านบาท และลูกค้าที่เข้าโครงการมาตรการพักชำระหนี้สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติแล้ว 70-80% แต่ธนาคารยังคงตั้งสำรองฯ สูง เพื่อป้องกันความเสี่ยง และเสริมความแข็งแกร่ง แม้ว่าเงินกองทุนของธนาคารจะอยู่ในระดับที่สูงถึง 20% ก็ตาม