ALT รับอานิสงส์ New Normal ยอดใช้แบนด์วิดท์พุ่ง

HoonSmart.com>>ALT รับอานิสงส์ New Normal ยอดใช้แบนด์วิดท์พุ่ง ประเมินเติบโตก้าวกระโดด 35-40% ต่อปี ชูจุดแข็งมีสถานีเชื่อมต่อมากสุดในประเทศ 15 จุด ครอบคลุมบริการทั่วภูมิภาค 

สมชาย ตรีรัตนนุกูล

นายสมชาย ตรีรัตนนุกูล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและการขาย บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เกทเวย์ จากัด (IG)  เปิดเผยว่า การล็อคดาวน์ของประเทศต่าง ๆ จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญในภูมิภาคเอเชียรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งคาดการณ์ว่า ความต้องการใช้แบนด์วิดท์เพื่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเกตเวย์ในภูมิภาคนี้ จะเติบโตประมาณ 35-40% ต่อปี สะท้อนให้เห็นภาพที่ชัดเจนของยุค New Normal ที่มีผู้คนใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกันนานขึ้นและมากขึ้นกว่าปกติ

สำหรับ IG  ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท เอแอลที เทเลคอม (ALT) ประกอบธุรกิจให้บริการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม สำหรับการบริการวงจรสื่อสารความเร็วสูง และบริการชุมสายอินเทอร์เน็ตทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายสมชาย กล่าวว่า บริษัทฯ ได้รับอานิสงส์โดยตรง จากความต้องการใช้แบนด์วิดท์เพื่อการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจาก เป็นผู้ให้บริการเช่าใช้โครงข่ายสื่อสัญญาณความเร็วสูง เพื่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในรูปแบบเป็นเกตเวย์ ทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศอาเซียน ผ่านการเชื่อมต่อทางเคเบิลใยแก้วนำแสง ภาคพื้นดินที่บริษัทฯได้ลงทุนสถานีเชื่อมต่อไว้ 15 จุด รอบพรมแดนประเทศเพื่อนบ้าน

ได้แก่ สถานีเชื่อมต่อไทย เมียนมาร์ 5 จุด ไทย สปป.ลาว 5 จุด ไทย–กัมพูชา 2 จุด และ ไทย มาเลเซีย 3 จุด โดยลงทุนติดตั้งอุปกรณ์โครงข่ายสื่อสัญญาณความเร็วสูง (DWDM) ต่อยอดจากโครงข่ายเส้นใยแก้วนำแสง ของกลุ่ม ALT และพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นระยะทางรวมกันกว่า 12,000 กิโลเมตร ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท

“บริษัทฯ มีจุดการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านมากที่สุดในขณะนี้  หลังเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา มีลูกค้าบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำ และบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในภูมิภาคกว่า 20 ราย มาใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปี 2561 คิดเป็นแบนด์วิดท์รวม 260 Gbit/s  , ปี 2562 มีแบนด์วิดท์รวม 470 Gbit/s และเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2563 ซึ่งขณะนี้มีการใช้งานแบนด์วิดท์รวมแล้วกว่า 1 Tbit/s (1,000 Gbit/s)” นายสมชาย กล่าว

อย่างไรก็ตาม จุดภูมิศาสตร์ของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในจุดที่เหมาะสมกับการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนอินเทอร์เน็ต (Digital Hub)  ทำให้ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมาร์ สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม นิยมมาใช้ไทยเป็นจุดแลกเปลี่ยน หรือเป็นทางผ่านไปยังมาเลเซีย สิงคโปร์  ถือว่า IG มีความได้เปรียบคู่แข่ง ซึ่งกลุ่ม  ALT ได้ลงทุนสร้างโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงไว้หลากหลายเส้นทาง แต่ละเส้นทางมีความปลอดภัยสูง และมีจุดเชื่อมต่อจำนวนมาก ออกแบบโครงข่ายได้ตรงตามความต้องการของลูกค้าและสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์ล็อกดาวน์