HoonSmart.com>>ผู้ถือหุ้นรายย่อยเทคะแนนให้ CPF ซื้อธุรกิจหมูครบวงจรในเมืองจีน ใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 5 ทันที จีนผลิตหมูป้อนการบริโภคของโลก 50% ได้ของดีราคาถูก โกยกำไรพิเศษ 2,600 ล้านบาทในไตรมาส 4 ส่วนปีหน้ากำไรกระโดด อัตรากำไรสุทธิพุ่งขึ้น จาก 3.9% เป็น 5.4% ธุรกิจหมูยังมีโอกาสโตอีกมาก ไม่ต้องห่วงเรื่องราคาขายผันผวน ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์แพงขึ้น ได้ซื้อตุนไว้ล่วงหน้าแล้ว
บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) จัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอมติให้บริษัท Chia Tai Investment (CTI) เข้าซื้อหุ้นของบริษัท 43 บแห่ง ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับหมูในสาธารณรัฐประชาชนจีน มูลค่าประมาณ 131,287 ล้านบาท โดยผู้ถือหุ้นได้เทคะแนน 99% อนุมัติให้บริษัทดำเนินการ ทำให้บริษัทเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 5 ของจีน ที่มีการบริโภคหมูถึง 50% ของโลก และการซื้อครั้งนี้ ได้ราคามาค่อนข้างดี มีกำไรพิเศษเกิดขึ้นประมาณ 84 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,600 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้ในไตรมาส 4/2563
นอกจากนั้น การซื้อกิจการครั้งนี้ ไม่ต้องใช้เงินสดลงทุน เป็นเพียงการออกหุ้นจำนวน 65% ให้บริษัทผู้ขายคือ CTAI ทำให้ CTI ลดสัดส่วนจากถือหุ้น 100% เหลือ 35% จึงต้องเปลี่ยนวิธีการบันทึกบัญชี ทำให้รายได้ลดลงส่วนหนึ่ง ขณะที่ฐานธุรกิจใหญ่มาก รวมธุรกิจของฟาร์มด้วย จากกำไรที่เคยได้ 140 ล้านเหรียญ จะกระโดดขึ้นเป็น 840 ล้านเหรียญ ส่งผลให้ CPF มีอัตรากำไรสุทธิ (เน็ตมาร์จิ้น)เพิ่มขึ้นจาก 3.9% เป็น 5.4% ในปี 2564 ส่งผลบวกต่ออัตราส่วนทางการเงิน เช่น สัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE)
นาย อดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร รองประธานกรรมการบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เป็นประธานในที่ประชุม กล่าวว่า การซื้อกิจการหมูในเมืองจีนครั้งนี้ CPF ได้กับได้ เชื่อว่าดีลนี้จะทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น
CTI เป็นผู้ผลิตหมูรายใหญ่ และยังทำธุรกิจครบวงจร แนวโน้มยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก นักลงทุนไม่ต้องกังวลถึงราคาขายที่ปรับตัวขึ้นหรือลดลงเพราะเป็นเรื่องปกติ สำหรับผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน และทำธุรกิจครบวงจร ส่วนราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นระยะนี้ ไม่ว่าจะเป็นราคาข้าวโพดและถั่วเหลือง บริษัทได้ซื้อล่วงหน้าครอบคลุมไว้แล้ว
อย่างไรก็ตามราคาหุ้น CPF ปรับตัวลงต่อเนื่อง ปิดที่ 25.25 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 2.88%
