ดาวโจนส์ดิ่ง 650 จุด วิตกไวรัสระบาดรอบสอง

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดต่ำกว่า 28,000 จุด ระหว่างวันลงลึกที่สุด 965 จุด วิตกไวรัสระบาดรอบสองกระทบเศรษฐกิจ มาตรการกระตุ้นออกไม่ทันเลือกตั้ง ฉุดราคาน้ำมันเบรนท์ทรุด 3%  หุ้นยุโรปร่วงเกิน 1%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ที่ 27,685.38 จุด ลดลง 650.19 จุด หรือ 2.29% จากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสหลังจากที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่การเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตกับทำเนียบขาว เพื่อที่จะผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ออกมาก่อนวันเลือกตั้งยังไม่บรรลุข้อตกลง

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,400.97 จุด ลดลง 64.42 จุด,-1.86%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,358.94 จุด ลดลง 189.35 จุด, -1.64%

การปรับตัวลดลงของดัชนีดาวโจนส์เมื่อวานนี้ กลบการปรับตัวขึ้นตลอดทั้งเดือน รวมทั้งเป็นการลดลงของมากสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม และเป็นการปิดต่ำกว่าระดับ 28,000 จุด ครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม แต่พ้นจากที่ร่วงลงไปถึง 965.41 จุด หรือ 3.4% ในระหว่างวัน

ตลาดปรับตัวลดลงหลังจากข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 68,767 รายต่อวันในรอบ 7วันที่ผ่านมา เฉพาะวันอาทิตย์วันเดียวจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 60,000 ราย และในวันศุกร์และวันเสาร์เพิ่มขึ้นรวมกว่า 83,000 ราย สูงกว่าสถิติสูงสุด 77,300 รายในเดือนกรกฎาคม

นักวิเคราะห์ระบุว่า จากตัวเลขสะท้อนว่าเป็นการระบาดใหญ่รอบสอง และบรรยากาศจะอึมครึมแบบนี้ต่อไปจนกว่าจะสกัดการแพร่ระบาดได้หมด

นอกจากนี้ความหวังที่จะเห็นพรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวบรรลุข้อตกลงการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาก่อนการเลือกตั้งลดลง หลังจากนายลาร์รี่ คุดโลว์ที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีเมื่อวานนี้ว่า การเจรจาชะลอ แม้ยังต่อเนื่อง

ด้านนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตแถลงการณ์ว่า พรรคเน้นถึงการตรวจหาเชื้อ แต่ฝ่ายบริหารไม่เคยเห็นด้วย และรับไม่ได้กับการที่ฝายบริหารไม่สกัดการระบาดของไวรัส อย่างไรก็ตามยังมีมุมมองทางบวกว่าจะบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ขณะที่นายมาร์ก เมียโดว์ หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวกล่าวในช่วงสุดสัปดาห์ว่า รัฐบาลจะไม่ควบคุมไวรัส แต่จะควบคุมให้มีวัคซีน และการรักษา

นักวิเคราะห์มองว่าระยะสั้นนี้ตลาดจะยังปรับตัวลดลง โดยแนวต้านแรกดัชนี S&P 500 อยู่ที่ 3,209 จุด เพราะนักลงทุนผิดหวังเรื่องมาตรการ การระบาดระลอกสองของไวรัส และความไม่แน่นอนของการเลือกตั้ง

แรงเทขายเกิดขึ้นทั่วตลาด นำโดยกลุ่มที่เชื่อมโยงกับภาวะเศรษฐกิจ ทั้งพลังงาน การเงิน และอุตสาหกรรม

กลุ่มพลังงานลดลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลง 3% มาที่ระดับต่ำกว่า 41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากความกังวลว่าการระบาดอีกระลอกจะมีผลกระทบต่อความต้องการ

ส่วนกลุ่มเดินทางลดลง โดยหุ้นคาร์นิวาลคอร์ปลดลง 8.66% หุ้นโรยัลแคริบเบียนลดลง 9.65% หุ้นนอร์วีเจียน ครูซไลน์ลดลง 8.5% หุ้นเดลตาแอร์ไลน์ลดลง 6.1% หุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์ลดลง7%หุ้นอเมริกันแอร์ไลน์ลดลง6.4%

หุ้นที่มองว่าจะได้รับผลบวกจากการทำงานที่บ้านกลับปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งแอมะซอน ซูมวิดิโอ

หุ้นโบอิ้งลดลง 3.90%หุ้นล็อกฮีทมาร์ตินลดลง 1.54%และหุ้นเรย์ธีออนลดลง 2.81% หลังจีนประกาศว่าจะคว่ำบาตรทั้ง 3 บริษัทจากการที่สหรัฐฯอนุมัติการขายอาวุธให้ไต้หวันมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์

กระทรวงพาณิชย์เผยยอดขายบ้านใหม่เดือนกันยายนลดลง 3.5% จากระยะเดียวกันของปีก่อนมาที่ 959,000 ยูนิต ต่ำกว่า 1.025 ล้านยูนิตที่นักวิเคราะห์คาด และยังปรับข้อมูลเดือนสิงหาคมลงเป็น 994,000 ยูนิตจากที่เปิดเผยเบื้องต้น 1.011 ล้านยูนิต

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีที่ลดลง 1.8% หลังจากหุ้น SAP ลดลง22% ยกเลิกการคาดการณ์กำไรและรายได้ปีนี้ และเตือนว่าธุรกิจใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าที่คาด จากผลกระทบของการระบาดของไวรัสโควิดที่มีผลต่อการใช้จ่าย ขณะที่การระบาดระลอกใหม่ทั่วยุโรปมีผลต่อการลงทุนด้วยความกังวลผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

ในฝรั่งเศสจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่ ส่งผลให้ 2 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งประเทศต้องอยู่ภายใต้เคอร์ฟิวตั้งแต่คืนวันศุกร์ ขณะที่อิตาลีสั่งบาร์ปิดบริการเร็วขึ้นและปิดสถานที่อออกกำลังกาย ส่วนสเปนประกาศภาวะฉุกเฉินบังคับใช้เคอร์ฟิวทั่วประเทศเพื่อควบคุมสถานการณ์ที่เลวร้ายลง

ในเยอรมนี สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ Ifo เผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจลดลงเป็นครั้งแรกหลังขยายตัวติดต่อกัน 5 เดือนในเดือนตุลาคมที่ 92.7 จาก 93.2 เดือนกันยายน สะท้อนว่าการฟื้นตัวอาจจะอ่อนแรงลง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 355.95 จุด ลดลง 6.55 จุด, -1.81%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,792.01 จุด ลดลง 68.27 จุด, -1.16%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,816.12 จุด ลดลง 93.52 จุด, -1.90%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,177.18 จุด ลดลง 468.57 จุด, -3.71%

หุ้นแอสตราเซเนกาเพิ่มขึ้นกว่า 1.7% หลังประกาศว่าวัคซีนที่ร่วมพัฒนากับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดให้ผลที่ใกล้เคียงกันจากการทดสอบในผู้สูงวัยและในคนอายุน้อย