SCGP อวดกำไร 1,904 ล้านบ. พร้อมเทรด 22 ต.ค.เข้า SET 50

HoonSmart.com>> เอสซีจี แพคเกจจิ้ง โชว์ไตรมาส 2 กำไร 1,904 ล้านบาท โตแรง 94 % พร้อมแล้วเข้าซื้อขาย 22 ต.ค.นี้ ลุ้นเข้า SET 50 ตามเกณฑ์ตลาด

บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 / 2563 กำไรสุทธิ 1,904.21 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.61 บาท เพิ่มขึ้น 924.78 ล้านบาท หรือ 94.42 % จากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไร 979.43 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.31 บาท

งวด 6 เดือน 2563 กำไรสุทธิ 3,636.34 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.16 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 2,601.50 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.83 บาท

สำหรับปี  2562 กำไรสุทธิ 5,268.51 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น  1.69 บาท ลดลง 797 ล้านบาท หรือ 13 % เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 6,065.53 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.94 บาท

บริษัท ฯ ชี้แจงภาพรวมธุรกิจไตรมาส 2 มีรายได้จากการขาย 21,636 ล้านบาท ลดลง 11% จากไตรมาสก่อน จากผลการดําเนินงานทั้งสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร รวมถึงสายธุรกิจเยื่อและกระดาษที่ลดลง

สําหรับ EBITDA ของเอสซีจีพี เท่ากับ 3,963 ล้านบาท ลดลง 21% เมือเทียบกับไตรมาสก่อน  ขณะที่กําไรสําหรับงวด เท่ากับ 1,904 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อน เนื่องจาก เอสซีจีพี มีกําไรจากอัตราแลกเปลียนเงินกู้ยืมสกุลดอลลาร์สหรัฐของ PT.
Fajar Surya Wisesa Tbk. (“Fajar”)  ขณะที่ไตรมาส 1 ปี 2563 มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินกู้ยืมดังกล่าว

ผลการดําเนินงานของช่วงครึ่งปีแรก 2563 รายได้จากการขายของเอสซีจีพี เท่ากับ 45,903 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากการขายจากสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรเพิ่มขึ้น รายได้จากการขายจากสายธุรกิจเยื่อและกระดาษลดลง สําหรับ EBITDA ในครึงปีแรกของเอสซีจีพี เท่ากับ 8,994 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26%

สาเหตุหลักมาจากการรวมผลการดําเนินงานของ Fajar และ Visy Packaging
Thailand Limited (“Visy Packaging Thailand”)  ในขณะที่มีกําไรสําหรับงวด เท่ากับ 3,636 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% เมือเทียบ กับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก ไตรมาส 2/2562  เอสซีจีพี มีค่าใช้จ่ายผลประโยชน์ของพนักงาน ซึ่งได้ปรับเงินชดเชยของลูกจ้างตามกฎหมายเพิ่มเติม เป็นจํานวน 527 ล้านบาท

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCGP  กล่าวว่า  บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET ) วันแรก 22 ต.ค.นี้  หมวดบรรจุภัณฑ์ คาดว่า ศักยภาพของบริษัทฯ ที่เป็นผู้นำธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน จะสร้างความเชื่อมั่น และได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ที่ต้องการร่วมเติบโตไปพร้อมกับ บริษัทฯ

หลังเข้าตลาดหุ้นแล้ว  SCGP จะนำเงินจากการระดมทุนมาใช้ขยายธุรกิจ ชำระเงินกู้และเป็นเงินทุนหมุนเวียน  วางแผนขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคง พร้อมกันนี้ ได้วางโมเดลธุรกิจ Packaging Solutions ที่แตกต่าง เพื่อตอบสนองความต้องการด้านบรรจุภัณฑ์แก่ลูกค้า รักษาตำแหน่งผู้นำธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน

นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์  ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำร่วมจำหน่าย กล่าวว่า  SCGP  เข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ที่คำนวณดัชนี SET 50 ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง  ในฐานะแกนนำขายหุ้น   คาดว่า SCGP จะเป็นหุ้นที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่โดดเด่น มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญการดำเนินธุรกิจมากว่า 40 ปี มีการพัฒนาโมเดลธุรกิจและขยายการลงทุนต่อเนื่อง สินค้าครอบคลุมทั้งบรรจุภัณฑ์กระดาษและบรรจุภัณฑ์จากพอลิเมอร์ มีฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย