“ทรีนีตี้” ชี้เป้า 6 หุ้นบิ๊กแคป แนะทยอยสะสมแถว 1,200 จุด

HoonSmart.com>> บล.ทรีนีตี้ มองหุ้นไทยโอกาสหลุด 1,200 จุด ชี้เป้า 6 หุ้นขนาดใหญ่ แนะทยอยสะสม SCC-DELTA-CPF-HMPRO-STGT-BAM

บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทย SET มีโอกาสลงทดสอบระดับ 1,200 จุดหรือต่ำกว่าได้ จึงเตรียมชุดหุ้นขนาดใหญ่ไว้เผื่อหากในช่วงถัดไป SET Index ปรับตัวลงไปที่บริเวณ 1,200 จุดหรือต่ำกว่า ซึ่งเป็นบริเวณที่แนะนำตลอดก่อนหน้านี้ว่าให้ใช้เป็นจังหวะในการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ จำนวน 6 ตัว ซึ่งเรียงตามมาร์เก็ตแคป ได้แก่ SCC, DELTA, CPF, HMPRO, STGT,BAM

หุ้น SCC มอง Spread ของ HDPE มีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากประเทศจีนและ Upside ของราคาน้ำมันดิบที่มีจำกัด ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ยอดขายซีเมนต์ที่อาจจะอ่อนแอจากการก่อสร้างในประเทศที่ชะลอตัว

หุ้น DELTA มองเป็นตัวเลือกอันดับแรกบนธีมหุ้นกลุ่ม Technology ของไทย นอกจากนั้นจากการคำนวณล่าสุดพบว่ามีโอกาส 100% ที่ตัวหุ้นจะถูกนำเข้าคำนวณ SET50/SET100 ในรอบถัดไปแล้ว ไม่นับรวมกับโอกาสที่อาจจะถูกนำกลับเข้าไปคำนวณในดัชนี MSCI Standard Index อีกครั้ง ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ Valution ที่อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับการซื้อขายในอดีต

หุ้น CPF ราคาปรับลงมารุนแรงมากเกินไปจนทำให้ Valution กลับมามีความน่าสนใจ โดย Forword PE อยู่ในระดับเทียบเท่ากับจุดต่ำสุที่เคยลงไปเมื่อช่วงวิกฤติ COVID-19 แล้ว นอกจากนั้นนักวิเคราะห์ของบล.ทรีนีตี้มีโอกาสปรับประมาณในช่วงถัดไปจากประเด็นธุรกิจหมูในประเทศจีน

สำหรับความเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ ราคาต้นทุนอาหารสัตว์ที่อาจปรับสูงขึ้นบ้าง

หุ้น HMPRO ราคาหุ้นปรับตัวลงมาแรงจากเหตุการณ์ชุมนุม ซึ่งมองว่ามีผลกระทบไม่มากจากจำนวนสาขาที่กระจายออกไปตามพื้นที่ต่างๆ นอกจากนั้นยังมองเป็นผู้ประกอบการอันดับต้นๆ ที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้ รวมุึงการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกเฉลียงเหนือ

สำหรับความเสี่ยงสำคัญ มองไปยังความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศที่อาจอ่อนแอนานกว่าที่คาดไว้

หุ้น STGT เป็นหุ้นที่มี Earnings momentum ชัดเจนอย่างมาก แถมการระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรงมากขึ้น มีโอกาสส่งผลให้อุปสงค์ต่อถุงมือยางอยู่ยาวนานกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ ประเมินตัวหุ้นมีโอกาสถูกนำเข้าสู่การคำนวณดัชนี MSCI Standard Index ในรอบถัดไปด้วยเช่นกัน

ส่วนความเสี่ยงที่สำคัญคือการเข้ามาแย่ง Market share ในตลาดของผู้เล่นรายใหม่

หุ้น BAM มองราคาปัจจุบันค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับ Earnings momentum ที่จะเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2563 พร้อมมี Upside risk จาก Deferred Tax Asset (DTA) ที่ยังไม่ใส่เข้ามาในประมาณการของบล.ทรีนีตี้ นอกจากนั้นประเมินมีโอกาส 100% ที่ตัวหุ้นจะถูกนำสู่การเข้าคำนวณดัชนี SET50/SET100 ในรอบถัดไป

สำหรับความเสี่ยงสำคัญ มองไปยังการบริโภคภายในที่อ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขายทอดสินทรัพย์ในตลาดได้