บลจ.ไทยพาณิชย์ชู RMF-SSF มากสุด 32 กองครอบคลุมทุกสินทรัพย์เสิร์ฟนักลงทุน

HoonSmart.com>>บลจ.ไทยพาณิชย์ นำเสนอกองทุนประหยัดภาษีเสิร์ฟนักลงทุน ชูกองทุน RMF-SSF มากสุดถึง 32 กองทุน ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ ทั้งกองทุนไทยและต่างประเทศ พร้อมจัดโปรโมชั่นลงทุนระหว่าง 15 ต.ค.-30 ธ.ค.63 รับหน่วยลงทุนกองทุนไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้นคืน มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท

นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ไทยพาณิชย์ ยังคงแนะนำให้ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนประเภท Super Savings (ชนิดเพื่อการออม) เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยกองทุนรวม RMF ใช้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท หรือไม่เกิน 15% ของรายได้ และกองทุน SSF ได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินที่เสียภาษีแต่ต้องไม่เกิน 200,000 บาท

ทั้งนี้ เมื่อรวมกับการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ ได้แก่ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญแล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท เพื่อเป็นการสร้างทางเลือกการลงทุนที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ และเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละบุคคล บริษัทฯ จึงได้นำเสนอขายกองทุนทั้ง 2 ประเภทรวมกันมากสุดถึง 32 กองทุนเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุน ดังนี้

กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) จำนวน 16 กองทุน แบ่งเป็น กองทุนรวมตราสารหนี้ จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM1) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM2) ลงทุนในพันธบัตรและตราสารหนี้ระยะสั้นภาครัฐและเอกชนในไทย กองทุนรวมผสม จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เฟล็กซิเบิ้ลฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM3), กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลเวลท์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMGW) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลเวลท์ พลัส เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMGWP) ลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั้งไทยและต่างประเทศ เน้นโอกาสสร้างผลตอบแทนด้วยการลงทุนในหุ้น

กองทุนรวมตราสารทุน จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM4) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET50 INDEXเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMS50) ลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี เน้นสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี SET50

กองทุนรวมต่างประเทศ จำนวน 7 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Global Population Trend เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMPOP) ลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร, กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยุโรปเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMEU) เน้นสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี STOXX Europe 600, กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นญี่ปุ่นเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMJP) เน้นสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี Nikkei 225, กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMS&P500) เน้นสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี S&P500, กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้น Low Volatility เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMLEQ) ลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีคุณภาพด้านปัจจัยพื้นฐานดีและมีความผันผวนต่ำ, กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลบอลอินฟราสตรัคเจอร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMGIF) ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโค้งสร้างพื้นฐานทั่วโลก และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลเฮลธ์แคร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMGHC) ลงทุนในหน่วยลงทุนต่างประเทศที่เน้นตราสารทุนในกลุ่มสุขภาพทั่วโลก

กองทุนรวมสินทรัพย์ทางเลือก จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์THB เฮดจ์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBGOLDHRM) เน้นสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับตลาดราคาทองคำแท่งในตลาดโลก และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMPIN) ลงทุนในหน่วย Property/REITs หรือหน่วย Infra ที่จดทะเบียนทั้งในและต่างประเทศ

ส่วนกองทุน Super Savings (SSF) มีจำนวนทั้งหมด 16 กองทุน แบ่งเป็น กองทุนรวมตราสารหนี้ จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น พลัส (ชนิดเพื่อการออม) (SCBSFFPLUS-SSF) ลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ไทยและต่างประเทศระยะสั้นที่มีคุณภาพ และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ตราสารหนี้ พลัส (ชนิดเพื่อการออม) (SCBFP-SSF) ลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ไทยและต่างประเทศที่มีคุณภาพอายุเฉลี่ย 1- 3 ปี

กองทุนรวมผสม จำนวน 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ สมาร์ทแพลน 2 (ชนิดเพื่อการออม) (SCBSMART2-SSF) ลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ ความผันผวนเป้าหมายประมาณ 5% ต่อปี กองทุนรวมตราสารทุน จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดเพื่อการออม) (SCBSE-SSF) ลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี 30 ตัว ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนเหนือตลาด และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปันผล (ชนิดเพื่อการออม) (SCBDV-SSF) ลงทุนในหุ้นไทยที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ

กองทุนรวมต่างประเทศ จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล สตราทีจิก อินเวสเมนท์ (ชนิดเพื่อการออม) (SCBGSIF- SSF) ลงทุนในตราสารหนี้เอกชนต่างประเทศที่มีคุณภาพ บริหารโดย PIMCO ผู้จัดการกองทุนระดับโลก, กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส (ชนิดเพื่อการออม) (SCBS&P500-SSF) เน้นสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี S&P500 ซึ่งเป็นดัชนีที่มูลค่ามากที่สุดของสหรัฐฯ (ที่มา: Investopedia ณ วันที่ 19 พ.ค. 2563) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้น Low Volatility (ชนิดเพื่อการออม) (SCBLEQ-SSF) ลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีคุณภาพด้านปัจจัยพื้นฐานดีและมีความผันผวนต่ำ

กองทุนรวมสินทรัพย์ทางเลือก จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ THB เฮดจ์ (ชนิดเพื่อการออม) (SCBGOLDH-SSF) เน้นสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับราคาทองคำแท่งในตลาดโลก และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล (ชนิดเพื่อการออม) (SCBPIN-SSF) ลงทุนในหน่วย Property/REITs และ/หรือหน่วย Infra ที่จดทะเบียนทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับนักลงทุนที่ยังคงสนใจลงทุนภายใต้นโยบาย LTF เดิม สามารถเลือกลงทุนในกองทุน SFF ได้ จำนวน 6 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 (ชนิดเพื่อการออม) (SCBLT1-SSF) ลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี 70% และตราสารหนี้คุณภาพ 30%, กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว พลัส (ชนิดเพื่อการออม) (SCBLT2-SSF) ลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี มีนโยบายจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ, กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว (ชนิดเพื่อการออม) (SCBLT3-SSF) ลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี มีโอกาสเติบโตสูง

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวอินเตอร์ (ชนิดเพื่อการออม) (SCBLT4-SSF) ลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี มีโอกาสเติบโตสูง และหุ้นต่างประเทศไม่เกิน 35%, กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เซ็ท อินเด็กซ์ (ชนิดเพื่อการออม) (SCBLTSET-SSF) กองทุน SSF เดียวในประเทศไทยที่เน้นสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี SET Index และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต (ชนิดเพื่อการออม) (SCBLTT-SSF) ลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี มีโอกาสเติบโตสูง และหุ้นที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ลงทุนในกลุ่มกองทุน RMF และ SSF ภายใต้การบริหารของบลจ.ไทยพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม – 30 ธันวาคม 2563 จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) คืน 0.2% ของเงินลงทุน หรืมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท