บลจ.กสิกรไทย ปลื้ม K-MIDSMALL คว้ากองทุนหุ้นยอดเยี่ยม

บลจ.กสิกรไทย ปลื้มกองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นทุน คว้ารางวัลกองทุนรวมยอดเยี่ยมแห่งปี 2561 ชูจุดเด่นผลตอบแทนย้อนหลังสูงสม่ำเสมอ และควบคุมความเสี่ยงได้ในระดับที่เหมาะสม พร้อมมองหุ้นไทยครึ่งปีหลังยังผันผวน แต่มีทิศทางเป็นบวก เหตุเศรษฐกิจฟื้นดันกำไร บจ.ยังโต คงเป้าดัชนีปลายปี 1,800-1,850 จุด

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า กองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นทุน (K-MIDSMALL) ของบลจ.กสิกรไทย ได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2561 (Best Mutual Fund of the Year 2018) ประเภทกองทุนตราสารทุนทั่วไป (Equity General) จากวารสารการเงินธนาคาร ในการประกาศผลรางวัลเกียรติยศ Money & Banking Awards 2018

“ปัจจัยหลักที่ทำให้ กองทุน K-MIDSMALL ของบลจ.กสิกรไทย ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ มาจากทีมจัดการลงทุนที่แข็งแกร่ง และมีประสบการณ์สูง รวมไปถึงทีมนักวิเคราะห์ ที่ทำการวิเคราะห์เจาะลึกธุรกิจของบริษัทขนาดกลางและเล็กต่างๆ ทำให้สามารถคัดเลือกหุ้นและจับจังหวะการลงทุน รวมถึงสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีพร้อมทั้งควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด และเป็นเป้าหมายสำคัญของบลจ.กสิกรไทย” นายวศิน กล่าว

กองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นทุน (K-MIDSMALL) มีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็ก ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ทั้งนี้ด้วยจำนวนหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีอยู่ในตลาดจำนวนมาก ทำให้ผู้จัดการกองทุนมีโอกาสคัดเลือกหรือแสวงหาหุ้นที่ยังมีระดับราคาน่าสนใจเข้าลงทุน จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการได้โอกาสรับผลตอบแทนตามการเติบโตของบริษัทขนาดกลางและเล็กที่มีแนวโน้มเติบโตสูง และสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นได้ พร้อมทั้งสามารถลงทุนได้ระยะยาวประมาณ 3-5 ปีขึ้นไป

กองทุนนี้ ยังได้เรตติ้ง 5 ดาว จากมอร์นิ่งสตาร์ จากความสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลังได้สูงโดดเด่นอย่างสม่ำเสมอ โดยมีผลตอบแทนในช่วง 1 ปีย้อนหลังที่ 11.65% ต่อปี และ 3 ปีย้อนหลังที่ 15.20% ต่อปี ในขณะที่ผลตอบแทนรวมของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัด (Benchmark) 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 6.63% ต่อปี (ข้อมูล ณ 31 พ.ค. 61)

นายวศินยังได้กล่าวถึงมุมมองการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 โดยคาดว่าตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนในระยะสั้น จากความกังวลใน 2 ปัจจัยหลักคือ ประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่อาจมีความยืดเยื้อ รวมถึงกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่อันเป็นผลมาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่มีแนวโน้มแข็งค่ากว่าสกุลเงินอื่นโดยเปรียบเทียบ

อย่างไรก็ตาม บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองเป็นบวกสำหรับการลงทุนในหุ้นไทยโดยอิงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะในส่วนของการฟื้นตัวของปัจจัยในประเทศ ซึ่งจะส่งผลบวกโดยตรงต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปี 2561 โดยปัจจุบันยังคาดการณ์ว่ากำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยจะเติบโตได้ในระดับ 10% ในปี 2561 บนสมมติฐานการเติบโตของ GDP ไทยที่ 4.5% ทั้งนี้บลจ.กสิกรไทยยังคงเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปลายปีนี้อยู่ที่ระดับ 1,800-1,850 จุด บนปัจจัยพื้นฐานที่ระดับ P/E ปี 2561 ประมาณ 16.3-16.8 เท่า

“ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในปัจจุบันคือ การทยอยเข้าลงทุนที่ระดับ SET Index 1,600-1,640 จุด โดยยังเน้นให้น้ำหนักการลงทุนไปที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ รวมทั้งกลุ่มที่ผลประกอบการยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีและราคาปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก” นายวศินกล่าว