HoonSmart.com>> “หุ้นเคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ฯ (KK) ” ลงสนามเทรดตลาด mai 7 ต.ค.นี้ มั่นใจนักลงทุนต้อนรับ ชูปัจจัยพื้นฐานปึ๊ก นักลงทุนเข้าใจโมเดลธุรกิจ มองเห็นโอกาสการเติบโต “กวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล” เอ็มดี ชี้เข้าระดมทุนในตลาดสนับสนุนให้บริษัทมีศักยภาพที่แข็งแกร่ง เตรียมพร้อมโอกาสจากการขยายสาขา สร้างการเติบโตในระยะยาว วางเป้ารายได้ขยายตัวต่อเนื่อง
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม สายงานวาณิชธนกิจ – ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST ที่ปรึกษาทางการเงินและในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น (KK) มีความมั่นใจเมื่อหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 7 ต.ค.63 จะได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากนักลงทุน พร้อมทั้งเชื่อว่าจะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจให้กับนักลงทุนได้ เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ธุรกิจยังมีอนาคตที่สดใสจากแผนการขยายสาขาที่หาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียง
ปัจจัยสนับสนุนอีกเรื่องคือการกำหนดราคาจองซื้อที่ระดับ 0.88 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีความน่าสนใจอย่างมาก ประกอบกับแนวโน้มธุรกิจยังมีโอกาสที่จะเติบโตอีกมากในอนาคต ตามศักยภาพทางเศรษฐกิจที่หาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียงที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ทำให้มีช่องที่จะขยายตัวอีกมาก ขณะที่ธุรกิจเข้าใจง่ายและอยู่ในชีวิตประจำวัน ระบบการจัดการภายในมีคุณภาพ มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ ตลอดจนความเข้าใจวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ซึ่งบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายรักษาระดับรายได้และกำไรสุทธิให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายกวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น (KK) กล่าวว่า เมื่อหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai น่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นได้ เนื่องจากที่ผ่านมากระแสตอบรับในช่วงโรดโชว์นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และช่วงที่เปิดให้จองซื้อหุ้นนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาเกินกว่าจำนวนหุ้นที่เสนอขาย ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการของนักลงทุนที่มีต่อ KK เพราะมองเห็นแนวโน้มในอนาคตของธุรกิจที่จะขยายตัวได้อีกมาก ตามกำลังซื้อของคนในพื้นที่หาดใหญ่ สตูล พัทลุงและจังหวัดใกล้เคียง ขณะเดียวกันเมื่อบริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น ยิ่งทำให้ธุรกิจสามารถขยายตัวต่อไปได้มากขึ้นตามไปด้วย
หลังจากที่ได้รับเงินจากการระดมทุนเข้ามา บริษัทฯจะนำไปขยายสาขาตามแผนงานที่วางเอาไว้ ส่วนที่เหลือใช้ชำระหนี้สถาบันและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งจะทำให้ KK มีศักยภาพและพร้อมมากขึ้นสำหรับการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะผลักดันให้รายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 กำไรสุทธิ 4.97 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.03 บาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 5.63 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.13 บาท
ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2563 กำไรสุทธิ 6.77 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.04 บาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 8.19 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.18 บาท โดยมีรายได้จากการขายจำนวน 481.98 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการค้าปลีกจำนวน 404.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 7.30% และมีรายได้จากค้าส่ง 77.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 3.04% ขณะที่ต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่ม
นอกจากนี้กำไรสุทธิสาเหตุหลักจากบริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงจากรายได้ค่าหัวชั้นและกองโชว์และรายได้ส่งเสริมการขายที่ลดลง รวมถึงบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นเงินเดือนพนักงานประจำปี และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงินตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 16 เรื่องสัญญาเช่าซึ่งบริษัทฯ ได้นำมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้มาถือปฏิบัติใช้ครั้งแรก
ด้านตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) รับหุ้น KK เข้าซื้อขายวันที่ 7 ต.ค.63 จำนวนหุ้นเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 69 ล้านหุ้น แบ่งเป็นประชาชนทั่วไป 62.10 ล้านหุ้น กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท จำนวน 6.90 ล้านหุ้น เสนอขายในราคา 0.88 บาทต่อหุ้นเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2563 ถึงวันที่ 1 ต.ค. 2563
นอกจากนี้มีจำนวนหุ้นสำหรับการจัดสรรส่วนเกิน 10.35 ล้านหุ้น หลังยืมจากนางสาวนรีรัตน์ สิริธนนนท์สกุล จำนวน 5,175,000 หุ้น และนายสรวีย์ สิริธนนนท์สกุล จำนวน 5,175,000 หุ้น