SCGP ปลื้ม 18 สถาบันจองหุ้น IPO 60% คุยขายถูกกว่า OSP-CPALL

HoonSmart.com>>“เอสซีจี แพคเกจจิ้ง” ตั้งราคาขายหุ้น IPO ที่  33.50-35 บาทต่อหุ้น P/E ประมาณ 22-23 เท่า ต่ำกว่า OSP-CPALL เปิดจอง 28 ก.ย. – 7 ต.ค. นี้  ระดมเงินขยายธุรกิจ 2.7 หมื่นล้านบาท ชำระหนี้ 1-1.3 หมื่นล้านบาท อัดงบลงทุน 8.2 พันล้านบาท ขยายกำลังการผลิต 4 โครงการใน 4 ประเทศ 

น.ส.วีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม เปิดเผยว่า บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนหลักแบบเฉพาะเจาะจง (Cornerstone Investors) จำนวน 18 ราย โดยได้ลงนามในสัญญา Cornerstone Placing Agreement รวมทั้งสิ้น 676.53 ล้านหุ้นหรือประมาณ 60% ของจำนวนหุ้น IPO ที่เสนอขายครั้งนี้ (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ SCGP ที่เป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน โอกาสการเติบโตและการเป็นผู้นำในยุคเศรษฐกิจใหม่ ที่มีความสามารถด้านนวัตกรรมและจุดเด่นในหลาย ๆ เรื่อง สามารถออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละราย

ทั้งนี้ สถาบันในประเทศ 14 ราย จองซื้อรวม 600 ล้านหุ้น ได้แก่ บลจ.บัวหลวง , บลจ.กสิกรไทย ,บลจ.ไทยพาณิชย์ , บลจ.เอ็มเอฟซี   ,บลจ.ทิสโก้ , บลจ.กรุงไทย , บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) , บลจ.ธนชาต , บมจ.ไทยประกันชีวิต , บลจ.อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย) ,บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต ,บลจ.พรินซิเพิล , บลจ.ภัทร และบลจ.วรรณ สำหรับนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ 4 ราย รวม 76.53 ล้านหุ้น ได้แก่ Avanda Investment Management Pte ltd , NTAsian Discovery Master Fund , Ghisallo Master Fund LP และ Tudor Systematic Tactical Trading L.P.

การเสนอขาย IPO ของ SCGP แบ่งเป็น 1. การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 1,127.55 ล้านหุ้น และหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 169.13 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน หรือ กรีนชู ส่วนช่วงราคาเสนอขายหุ้นที่ 33.50-35.00 บาท/หุ้น มี P/E ที่ราว 22-23 เท่า เทียบกับกลุ่มการบริโภคอย่างบริษัทโอสถสภา (OSP) หรือบริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) มี P/E อยู่ที่ประมาณกว่า 30 เท่า ส่วนราคาสุดท้ายจะกำหนดในวันที่ 8 ต.ค. จากการสำรวจความต้องการจองซื้อของนักลงทุนสถาบัน คาดว่าจะนำหุ้น SCGP เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือนต.ค.นี้

วิชาญ จิตร์ภักดี

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  SCGP เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Bien Hoa Packaging Joint Stock Company (SOVI) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูกรายใหญ่ในเวียดนามที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ และมีการเจรจากับรายอื่นๆเพิ่มเติม แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้

นอกจากนี้อยู่ระหว่างการขยายกำลังผลิตอีก 4 โครงการ ในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศฟิลิปปินส์ ใช้งบลงทุนรวมกว่า 8,200 ล้านบาท ซึ่งทยอยแล้วเสร็จในปี 2563–2564 ช่วยเพิ่มความสามารถการผลิตบรรจุภัณฑ์และขยายส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น

กุลเชฏฐ์ ธาราจันทร์

ด้านนายกุลเชฏฐ์ ธาราจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน SCGP คาดว่าจะระดมเงินทุนได้ประมาณ 4.3-4.5 หมื่นล้านบาท (รวมกรีนชู) โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้ราว 2.7 หมื่นล้านบาท รองรับการขยายกำลังการผลิต การเข้าซื้อกิจการ รวมถึงทรัพย์สินอื่น  และจะนำเงินบางส่วนราว 1.0-1.3 หมื่นล้านบาทใช้คืนหนี้เงินกู้ยืมสถาบันการเงิน ช่วยลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 0.9 เท่า และจะช่วยให้งบการเงินมีความแข็งแกร่งมากขึ้น  คาดว่าเมื่อหุ้น SCGP เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีมาร์เก็ตแคปประมาณ 1.4 แสนล้านบาทมีความเป็นไปได้สูงที่หุ้นของบริษัทจะเข้าไปอยู่ใน SET50 ในวันแรก ๆ ที่เข้าจดทะเบียน