ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 130 จุด เงินเฟ้อส.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% 

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 130 จุด เงินเฟ้อเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 0.4% ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้น เบรนท์ลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 11 กันยายน  2563 ที่ 27,665.64 จุด เพิ่มขึ้น 131.06 จุด หรือ 0.48% หลังจากที่ร่วงไประหว่างวันกว่า 300 จุด นำโดยออราเคิล จากผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีกว่าคาด ซึ่งสะท้อนว่าธุรกิจเทคโนยีหรือเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยียังมีความแข็งแกร่งปรับตัวได้อีกท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด-19 

หุ้นออราเคิลเพิ่มขึ้น 5.1% จากกำไรที่แข็งแกร่งและส่งัญญานว่า ลูกค้าริ่มกลับมาใช้จ่าย เพราะความต้องการของ work from home ยังมีอีกมาก และส่งผลให้ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น  

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,340.97 จุด เพิ่มขึ้น 1.78 จุด, +0.05%  
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,853.55 จุด ลดลง 66.05 จุด, -0.60% 

หุ้นกลุ่มที่ได้รับผลบวกจากwork from home ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหุ้นแอปเปิล หุ้นแอมะซอน หุ้นไมโครซอฟต์ หุ้นเน็ตฟลิกซ์ต่างเพิ่มขึ้นกว่า 1%  

ในสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 1.7% ดัชนี S&P500 ลดลง 2.5% และดัชนี Nasdaq ลดลง 4.1% 
             
ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น แต่ตลาดแรงงานยังคงกดดันเงินเฟ้อ ขณะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากภาวะถดถอยอันเนื่องจากการระบาดของไวรัส 

กระทรวงแรงงานเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)เดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.4% จากที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิถุนายนและเพิ่มขึ้น 1.3% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI อาจเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้น 1.2% จากระยะเดียวกันของปีก่อน 
ดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนและเพิ่มขึ้น 1.7% จากระยะเดียวกันของปีก่อน  

 กระทรวงการคลังเผย ยอดขาดดุลงบประมาณเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์ และมีแนวโน้มแตะ 3.3 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณในเดือนนี้   

บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใน‪วันที่ 15-16 ก.ย.นี้‬ ซึ่งคาดว่าเฟดจะให้รายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับ “เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย” ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้กล่าวถึงในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ โดยเฟดจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ 
 
 
 
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย นำโดยกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น 2.4% นักลงทุนจับตาการเจรจากของอังกฤษกับสหภาพยุโรป เกี่ยวกับข้อตกลงการค้า เพื่อการถอนตัวของอังกฤษถอนตัวออก จากสหภาพยุโรปหรือ Brexit ก่อนครบเส้นตาย ‪31‬ ‪ธันวาคมนี้‬ 
อังกฤษประกาศว่า ได้บรรลข้อตกลงการค้าหลักๆบางส่วนแล้วและตกลงในหลักการข้อตกลงการค้าเสรีกับญี่ปุ่น ซึ่งต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาของทั้งสองประเทศ ก่อนมีผลภายในสิ้นปีนี้ 
เดือนกรกฎาคมเศรษฐกิจอังกฤษขยายตัว 6.6% จากเดือนก่อน 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 367.96 จุด เพิ่มขึ้น 0.48จุด,  +0.13% 
ดัชนี FTSE  100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,032.09 จุด เพิ่มขึ้น 28.77 จุด หรือ +0.48%  
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,034.14 จุด เพิ่มขึ้น 10.21 จุด หรือ +0.20% 
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,202.84 จุด ลดลง 6.05 จุด หรือ -0.05% 

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 3 เซนต์ปิดที่ 37.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 23 เซนต์ ปิดที่ 39.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล