ผู้บริหาร EA ยันไม่ทิ้งหุ้น ชี้ราคาหุ้นร่วงต่อเนื่อง เหตุ 2 กองทุนเทขาย และมีชอร์ตเซลรวมแล้วเกือบ 100 ล้านหุ้น พร้อมระบุบริษัทไม่มีการเพิ่มทุน หลังเตรียมทุ่ม 2.6 หมื่นล้านลงทุน ลุยสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ตามแผน
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยกรณีราคาหุ้นของบริษัทตกลงอย่างต่อเนื่อง ว่า จากการเข้าไปปิดสมุดบัญชีทะเบียนเพื่อตรวจสอบการถือหุ้นในบริษัท ก็พบว่า ในช่วงที่ราคาหุ้นผันผวนและตกลงมาอย่างผิดปกตินั้น มีกองทุนหุ้นระยะยาว 2 แห่ง ขายหุ้นออกมา 41.7 ล้านหุ้น โดยกองทุนแรกขายออก 32 ล้านหุ้น และกองทุนที่สองขายหุ้น 9.7 ล้านหุ้น นอกจากนี้ ยังมีการขายชาร์ตเซลออกมา 48.9 ล้านหุ้น ในจำนวนนี้มีบุคคลธรรมดา 2 คนที่ไม่เคยปรากฏชื่อว่าเคยถือหุ้นในบริษัทมาก่อน ขายหุ้นออกมา 12 ล้านหุ้น
“หุ้นที่ผันผวนและตกลงมาเยอะ เพราะมีการขายหุ้นออกมา 100 ล้านหุ้นในช่วงเวลาอันสั้น เมื่อมีแรงขายเยอะก็กระทบต่อราคาหุ้น โดยเฉพาะกองทุนระยะยาวที่ขายหุ้นออกมาในช่วงเวลาอันสั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ส่วนที่มีข่าวลือว่าผมและครอบครัวขายหุ้น เพราะมีปัญหากัน ก็ไม่จริง จำนวนหุ้นไม่ได้เปลี่ยนแปลง รวมทั้งที่มีข่าวลือว่า ผมฉ้อโกงบริษัทแล้วหอบเงินหนีไปไต้หวัน หรือผมถูกยิง ก็ไม่จริงอีก และที่มีการพูดว่าบริษัทมีโครงการลงทุนมากมายที่ใช้เงินเยอะและจะเพิ่มทุน ก็ไม่จริง เพราะบริษัทไม่เคยมีการเพิ่มทุน โดยตั้งแต่เข้าตลาดมีการระดมเงิน 3,000 ล้านบาท จากนั้นเราก็เติบโตมาตลอด จากทุนจดทะเบียน 373 ล้านบาท วันนี้โครงการโซล่าเซลล์และไฟฟ้าจากพลังงานลมของเรามีมูลค่า 6-7 หมื่นล้านบาท”นายสมโภชน์กล่าว
นายสมโภชน์ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาด 50 GWh ที่มีนักวิเคราะห์บางรายระบุว่าไม่สามารถสร้างได้จริง เพราะอยู่ในพื้นที่สีเขียว ว่า โรงงานในเฟสแรก 1 GWh วงเงินลงทุน 4,000 ล้านบาท จะเริ่มเดินเครื่องได้ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2562 โดยทุกอย่างได้มีการเตรียมการไว้แล้ว ตั้งแต่มีการเปิดแอล/ซีเพื่อสั่งซื้อเครื่องจักร การเตรียมพื้นที่นิคมฯ รวมทั้งยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน และแม้ว่าขณะนี้พื้นที่ตั้งโรงงานจะยังอยู่ในพื้นที่สีเขียว แต่หลังจากการประกาศใช้ผังเมืองรวมในพื้นที่เขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) แล้ว พื้นที่ตั้งโรงงานจะเปลี่ยนเป็นพื้นที่สีม่วง และเมื่อโครงการเฟสแรกแล้วเสร็จ ก็จะเริ่มดำเนินการในเฟสที่สอง 49 GWh ต่อไป
“การที่มีนักวิเคราะห์บางคนให้ราคาหุ้น EA ที่ 27 บาทต่อหุ้น โดยประเมินจากธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น และไม่นำโครงการลงทุนในอนาคตของเรา เช่น การสร้างโรงงานแบตเตอรี่ โครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และโรงงานโอลีโอเคมีเคิล มารวมไว้ในการประเมินเลย ผมว่าไม่ใช่ โครงการของเราไม่ใช่โครงการในกระดาษเปล่า แต่เราได้ทำแล้ว และนักวิเคราะห์คนนี้ก็ไม่เคยมา Visit โรงงานเราเลย”นายสมโภชน์กล่าว
นายสมโภชน์ กล่าวว่า ในช่วงปี 2561-2562 บริษัทมีโครงการลงทุนสำคัญๆที่ต้องใช้เงินลงทุน 2.6 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทจะใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานไปใช้ในการลงทุน ซึ่งหลักๆจะมาจากรายได้จากการขายไฟฟ้า แบ่งเป็นกระแสเงินสดจากการดำเนินงานในปีนี้ 8,000 ล้านบาท และปีหน้าคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากการกู้ยืมระยะยาว
“ในปีนี้งบส่วนใหญ่เกือบ 1.8 หมื่นล้านบาท จะเป็นการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลม จ.ชัยภูมิ กำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ ซึ่งได้รับเครดิตจากซัพพลายเออร์ให้ชำระเงินส่วนใหญ่กว่า 1 หมื่นล้านบาทในเดือนมี.ค. ปีหน้า จึงไม่กระทบกับแผนการจัดการด้านการเงิน โดยกังหันลมชุดแรกมาถึงแล้วเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา และจะนำไปติดตั้งทันที จึงมั่นใจว่าโครงการจะแล้วเสร็จและเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ปลายปีนี้”นายสมโภชน์กล่าว