HoonSmart.com>>”ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้” ปรับกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง เน้นสินค้าไฮมาร์จิ้น มั่นใจธุรกิจ OEM-REM ฟื้น บันทึกกำไรขายเงินลงทุน SAFE รับปีนี้รายได้โตไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ 20% หลังโควิดกระทบ ขาดทุนค่าเงิน ปี 64 มั่นใจรายได้โต 20-30% อินเดีย-ธุรกิจ REM ในประเทศโต
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) เปิดเผยว่า บริษัทปรับกลยุทธ์ครึ่งหลังของปี 2563 โดยเน้นสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง (มาร์จิ้น) มองว่างานออกแบบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า เริ่มมีเข้ามาได้ และใช้ระยะเวลาในการออกแบบไม่นาน ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนเพื่อป้อนโรงงานประกอบรถยนต์ (OEM) และธุรกิจผลิตชิ้นส่วนประเภทอะไหล่ทดแทน (REM) จะฟื้นดีขึ้นเหมือนปกติในช่วงไตรมาส 4/63
ส่วนผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 และผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 8.63 ล้านบาทในครึ่งปีแรก ลดลง 90.20% จากยอดขายที่ลดลงเหลือ 853.51 ล้านบาท หรือลดลง 14.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยในไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิ 10.84 ล้านบาท และยอดขาย 329.39 ล้านบาท รวมทั้งปีไม่สามารถทำได้ตามเป้ารายได้ที่วางไว้ที่เติบโต 20%
อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโต 20-30% ทั้งจากความต้องการที่กลับมาใกล้เคียงปกติในปี 63 และการเติบโตของธุรกิจ REM ในประเทศ และอินเดียที่คาดว่าเติบโตมากกว่าปี 2563 ที่ทำธุรกิจ OEM ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามนโยบายรัฐบาลอินเดียสามารถทำการผลิตได้เพียง 30% ของกำลังการผลิตทั้งหมด แต่หลังจากเริ่มคลี่คลายจะสามารถผลิตได้เต็มกำลังการผลิต ซึ่งมีงานที่รอประมูล 3 โครงการ มูล่า 787.68 ล้านรูปี หาชนะการประมูลจะเข้าไปรับรู้รวมกับยอด Backlog ที่มีอยู่ 787.34 ล้านรูปี
ด้านนายพิมล เลิศทรัพย์อนันต์ ผู้อำนวยการสายการเงิน FPI เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าในช่วงครึ่งหลัง จะเริ่มดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยยอดผลิตรถยนต์ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ 695,468 คัน คาดว่าจะมากกว่าเป้าการผลิตปี 2563 ที่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) วางไว้ที่ 1 ล้านคัน และยอดการใช้รถ EV ปีนี้ จะเติบโตประมาณ 5.96% จากครึ่งแรกอยู่ที่ 2.31 ล้านคัน จากยอดใช้รถทั้งหมที่ 38.76 ล้านคัน
นอกจากนี้บริษัทจะเริ่มทำสัญญาซื้อขายเงินลงทุนใน SAFE มูลค่าประมาณ 222.90 ล้านบาท จากเงินที่ลงทุนไป 193.90 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มบันทึกกำไรประมาณ 29 ล้านบาท ในไตรมาส 4 นี้ ปัจจุบันรอทำสัญญาซื้อขายฉบับจริง