BCH เตรียมเปิด 2 รพ.ใหม่ ปีนี้รายได้โตเพียง 4-6%

HoonSmart.com>>”บางกอก เชน ฮอสปิทอล”เผยในไตรมาส 4 ปีนี้ และไตรมาส 1 ปีหน้า เตรียมเปิด 2 โรงพยาบาลใหม่  หลังครึ่งแรกเปิดโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อรัญประเทศไปได้สวย ศึกษาลงทุนต่อใน  CLMV  โรงพยาบาลมะเร็ง ขนาดเล็ก 10-20 เตียง ส่วนผลงานครึ่งปีหลังรายได้โตมากกว่า 10%  ผู้ป่วยใน-นอกเริ่มกลับมาปกติ ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น ปรับลดเป้ารายได้ปีนี้โต 4-6% ไม่ถึง 10% คุมค่าใช้จ่ายลดต้นทุนทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 14.23%  

นพ. เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าลงทุนตามแผน ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จะใช้เงินประมาณ 650 ล้านบาท ลงทุนโรงพยาบาลเกษมราฎร์ ปราจีนบุรี คาดจะเปิดดำเนินการได้ภายในไตรมาส 4/63 ส่วนโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่น แนลเวียงจันทน์ คาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส 1/64  จากงบลงทุนที่ตั้งไว้ในปีนี้  1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาก่อสร้างโรงพยาบาลมะเร็ง จำนวนเตียงประมาณ 10-20 เตียง เป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก ตั้งงบประมาณ 200 ล้านบาท จากครึ่งแรกของปีนี้ที่เปิดโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล สาขาอรัญประเทศ ที่จังหวัดสระแก้ว เป็นโรงพยาบาลขนาด 115 เตียง สามรถเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน รองรับผู้ป่วยจากประเทศกัมพูชาได้ มีอัตราการเติบโตที่ดี รวมถึงแผนในอนาคตที่จะเปิดโรงพยาบาลในประเทศ CLMV เพิ่มด้วย ทั้งรูปแบบการซื้อกิจการ และลงทุนในพื้นที่ที่มีความทางการแพทย์

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานบริษัทฯมองครึ่งปีหลัง รายได้เติบโตได้มากกว่า 10% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในไตรมาส 3/63 เป็นช่วงที่มีผู้ป่วยเข้ามามากที่สุด เริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาของผู้ป่วยใน 70% ผู้ป่วยนอก 80-90% และจากผู้ประกันตนที่มองว่าจะเพิ่มขึ้น ปัจจุบันอยู่ที่ 8.87 แสนราย คาดรายได้จากผู้ประกันต้นเพิ่มขึ้น 8-12% และปี 2564 คาดว่าเพิ่ม 1 ล้านราย รวมถึงผู้ป่วยโรคซับซ้อน นอกจากนี้มีผู้ป่วยต่างชาติและผู้ป่วยชาวไทยที่เดินทางกลับเข้ามาในประเทศ ได้รักษาและกักกันตัวในโรงแรมที่ทางโรงพยาบาลยื่นตามนโยบายของภาครัฐ 12 แห่ง ปัจจุบันได้รับอนุมัติ 7 แห่ง มีผู้เข้ารักษาประมาณ 500 คน ทำให้รายได้ในปี 2563 คาดว่าเติบโต 4-6% จากเป้าเดิมที่ 10%

ทั้งนี้ในไตรมาส 2/63 มีรายได้รวม  2101.58 ล้านบาท ลดลง 2.93%   แต่จากการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายลงมาอยู่ที่ 1,672 ล้านบาท หรือลดลง 6.6%  ส่งผลให้มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 5.67% อยู่ที่ 690.75 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 278.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.23% โดยรวมครึ่งปีแรกมีรายได้รวม 4,298.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.65% มีการให้บริการตรวจโควิด-19 เข้ามาเสริม และมีกำไรสุทธิ 537.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ด้านคณะกรรมการมีมติอนุมัติการจ่ายปันผลระหว่างกาล ที่อัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 ส.ค. 2563 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 11 ก.ย. 2563