SCM ได้ฤกษ์เทรด 8 ก.ย.นี้ ราคาขาย 1.90 บาท เหมาะสม พี/อี 13 เท่า

HoonSmart.com>>ซัคเซส มอร์ บีอิ้งค์ เคาะราคาไอพีโอ 1.90 บาท เปิดขาย 27 ส.ค. – 1 ก.ย.นี้  ฤกษ์เข้า SET วันที่ 8 ก.ย.นี้ ” มนตรี ศรไพศาล” ชี้ราคาเหมาะสม พี/อี 13.86 เท่า 

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย บริษัท ซัคเซส มอร์ บีอิ้งค์  (SCM)  เปิดเผยว่า การกำหนดราคาขายหุ้น SCM ที่ 1.90 บาท  คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) ก่อนการเพิ่มทุน เท่ากับ 13.86 เท่า ถือเป็นระดับราคาที่มีความเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ฐานะทางการเงินที่มั่นคง และโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ  จากปัจจัยบวกเรื่องโรงงานผลิตสินค้าแห่งใหม่ และความชัดเจนในข้อกฎหมายขายตรงในประเทศพม่า

สำหรับ SCM เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)  150 ล้านหุ้น  มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เปิดจองซื้อ 27, 28, 31 ส.ค.  และ 1 ก.ย.  2563 เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) วันที่ 8 ก.ย. 2563

นายแพทย์สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร SCM กล่าวว่า เงินระดมทุน จะนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน ขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งรวมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้สอดรับกระแสผู้บริโภคในยุค New Normal ที่หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น และเป็นกลุ่ม High growth ที่จะช่วยผลักดันการเติบโตของธุรกิจ SCM ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต รวมถึงการมุ่งเน้นพัฒนาในด้านเทคโนโลยีและ E-marketing

นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  SCM กล่าวว่า จุดแข็งที่สำคัญของ SCM คือ การมีเครือข่ายสมาชิกกว่า 1.8 แสนคนทั่วประเทศ มีสาขาเพื่อกระจายสินค้าอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของไทย 23 แห่ง อีกทั้งยังมีตัวแทนจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศ เพื่อเป็นช่องทางกระจายสินค้าในประเทศแถบ AEC ประกอบด้วยประเทศ เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ จึงไม่ใช่ธุรกิจเครือข่ายที่แข่งขันในประเทศเท่านัน้ แต่ SCM ต้องการเป็นแบรนด์คนไทย แข่งขันระดับอินเตอร์ได้

สำหรับ SCM ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในรูปแบบ Network Marketing ผ่านนักธุรกิจในประเทศและตัวแทนจัดจำหน่ายต่างประเทศ มีธุรกิจ 3 กลุ่ม ประกอบด้วย

1.กลุ่มธุรกิจแบบเครือข่าย จำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภคทั้งในและต่างประเทศ เป็นธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ โดยผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ สามารถจำแนกเป็น 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร , เครื่องสำอาง, ของใช้ส่วนตัว, สินค้าทางการเกษตร และกลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและเทคโนโลยี

2. กลุ่มธุรกิจให้คำปรึกษาธุรกิจเครือข่าย-จัดงานสัมมนา และ 3. ธุรกิจโรงงานผลิตสินค้าให้บริษัทในกลุ่ม SCM

ผลประกอบการปี 2562   มีรายได้ 1,100.76 ล้านบาท  กำไรสุทธิ 59 ล้านบาท และครึ่งปี 2563 มีรายได้ 417.77 ล้านบาท กำไรสุทธิ 19.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.82 ล้านบาท หรือ  15.73 % จากครึ่งปีก่อน