บล.ฟินันเซียฯ ชู CENTEL เด่น MINT-ERW เหนื่อยต่อ

HoonSmart.com>>บล.ฟินันเซีย ไซรัส วิเคราะห์รัฐกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่ม แค่ช่วยประคับประคองสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ ธุรกิจโรงแรมของ MINT-ERW ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ปมองสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติจะต้องรอถึงปี 66

บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า  ศบศ.มีมติกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่มเติมขยายสิทธิเราเที่ยวด้วยกันเป็น 10 คืนและช่วยค่าเดินทางเป็น 2,000 บาท เป็นการช่วยประคองสภาพคล่องผู้ประกอบการ แม้ผลการดำเนินงานจะผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาสที่ 2/2563 แต่การฟื้นตัวยังช้าโดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่รายได้กว่า 80% ต้องพึ่งพิงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่ธุรกิจอาหารฟื้นเร็วกว่า ทำให้ ERW และ MINT ยังค่อนข้างเหนื่อย ขณะที่ CENTEL อยู่ในสถานะที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามความเสี่ยงคือการระบาดระลอก 2 ของโควิด-19

ธุรกิจโรงแรมของ MINT ทยอยฟื้นตัวขึ้น  โดยมีอัตราการเข้าพักราว 20-30% แต่ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุนระดับ 30-40% ส่วนธุรกิจอาหารมีกำไรถึงจุดคุ้มทุนแล้ว เราประเมินผลขาดทุนลดลงในครึ่งปีหลัง แต่การฟื้นตัวยังช้า คงราคาเป้าหมายที่ 21 บาท แนะนำเพียง “ถือ”

ส่วน CENTEL ธุรกิจโรงแรมเริ่มมีอัตราการเข้าพักฟื้นตัวที่ราว 30% แต่ยังไม่ถึงระดับกำไรคุ้มทุน ขณะที่ธุรกิจอาหารมี Same Store Sales Growth ติดลบน้อยลง และมีกำไรสุทธิ ช่วยประคองภาพรวมผลการดำเนินงาน ฐานะการเงินแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มมี D/E Ratio เพียง 0.8 เท่า ทนทานต่อสถานการณ์โควิด-19 ที่กินเวลานาน รวมถึงเปิดโอกาส M&A แต่เต็มมูลค่าเทียบกับราคาเป้าหมายที่ 24.40 บาท แนะนำ “ถือ”

ERW โรงแรมทั้งหมดเริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการแล้วทั้งหมด แต่มีเพียง Hop Inn ที่ฟื้นตัวเร็วและกำไรถึงจุดคุ้มทุน ส่วนโรมแรมระดับอื่นยังมี EBITDA ติดลบ ผู้บริหารมองว่าภาพการท่องเที่ยวยังไม่กลับสู่ระดับปกติจนถึงปี 2566  ทำให้ ERW มีความเสี่ยงเพิ่มทุนมากขึ้นโดย D/E Ratio จะทะลุ 3 เท่าสิ้นปีนี้ แม้ Upside จะเกิดกว้างจากราคาเป้าหมายที่ 3.50 บาท แต่ยังไม่แนะนำให้รีบลงทุน