GL โชว์เงินสดแน่นกว่า 3.1 พันลบ.ลุยธุรกิจต่อเนื่อง ชี้ปล่อยกู้ถึงบ้านโต

HoonSmart.com>> “กรุ๊ปลีส” โชว์เงินสดในมือกว่า 3.1 พันล้านบาท มั่นใจเดินหน้าธุรกิจ ขยายการให้บริการทั้งในและต่างประเทศ กระแสตอบรับ “Motor and Car for Cash บริการถึงบ้าน” ดันยอดสินเชื่อพุ่ง ตรงใจ ตอบโจทย์ลูกค้า สอดรับวิถีใหม่ New Normal ด้านผลงานไตรมาส 2/63 ฝ่าโควิด-19 กำไรสุทธิ 55.05 ล้านบาท

ทัตซึยะ โคโนชิตะ

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส (GL) กล่าวว่า ถือเป็นโชคดีที่บริษัทฯดำเนินธุรกิจในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วงก่อนสถานการณ์ Covid-19 นี้ บริษัทฯ เริ่มจะมีกำไร ถึงแม้ว่า Covid-19 ทำให้การเติบโตของบริษัทฯช้าลงในไตรมาสนี้ ซึ่งบริษัทฯเข้าใจสถานการณ์ดีขึ้น บริษัทฯคาดว่าจะเริ่มการเติบโตอย่างชาญฉลาดอีกครั้งและใช้ประโยชน์จากเงินสดจำนวนมากที่มีอยู่มากกว่า 3.1 พันล้านบาท

“อีกหนึ่งบริการที่จะทำให้เราเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ คือ “บริการถึงบ้าน” ให้กับลูกค้า Motor for Cash และ Car for Cash แทนที่จะให้ลูกค้ามาที่สาขา พนักงานของเราจะไปบริการถึงบ้านลูกค้า ตั้งแต่ตรวจสภาพรถ รวมถึงขั้นตอนต่างๆจนเสร็จสิ้น เราได้เริ่มให้บริการนี้ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ทำให้บริการนี้มีกระแสตอบรับที่ดีขึ้นมาก เนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการ สอดรับวิถีใหม่ New Normal ลูกค้าชอบที่จะให้ไปบริการถึงบ้าน ทำให้เราปล่อยสินเชื่อ Motor for Cash ในเดือนมิ.ย.ปีนี้ได้มากกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน การที่เรามีกำไรในไตรมาสนี้ คาดว่าบริษัทฯ จะให้ผลตอบแทนที่มากขึ้นแก่บรรดาผู้ถือหุ้นของเรา”นายทัตซึยะ กล่าว

นายอาลัน ดูเฟส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ บริษัท กรุ๊ปลีส (GL) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีกำไร 55.05 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2563 เนื่องจากสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและต้นทุนทางการเงินลงได้ถึง 75 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2562 อย่างไรก็ตาม ยังมีค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย 21 ล้านบาท ซึ่งถือว่าลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว และไตรมาสที่ผ่านมา

ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อไตรมาสนี้ คือ การระบาดของ Covid – 19 และการ lockdown ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดการปล่อยสินเชื่อที่ลดลงในระหว่างไตรมาสนี้ เนื่องจากผลของการ lockdown และกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆที่ลดลง ทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อในเดือนเมษายนลดลงอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตามเมื่อดูภาพรวมทั้งไตรมาสแล้วเห็นได้ว่ายอดการปล่อยสินเชื่อกลับมาเพิ่มขึ้นเกือบเท่าเดิม นับได้ว่าเดือนเม.ย.เป็นเดือนที่ยากลำบากสำหรับบริษัทฯในการติดตามหนี้ อย่างไรก็ตามเราสามารถติดตามหนี้ได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก และบริษัทฯดำเนินการติดตามหนี้ได้ดีขึ้นตั้งแต่เดือนเม.ย. ภาพรวมของไตรมาสนี้ ถือว่าการติดตามหนี้ทำได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำหรับในประเทศไทย บริษัทฯ อนุมัติการพักชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ไปแล้วเกือบ 10,000 ราย เนื่องจากบริษัทฯต้องการช่วยเหลือลูกหนี้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

สำหรับธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการให้สินเชื่อรายย่อยในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งยังคงที่ในเวลานี้ แม้รายได้จากสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น 3 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยน ในขณะที่บริษัทฯคาดหวังการเติบโตของธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ ก็มีการ lockdown เนื่องจากการระบาดของ Covid-19 เช่นกัน ซึ่งทำให้ความสามารถในการพบลูกค้าใหม่ของบริษัทฯลดลง บริษัทฯคาดว่าจะมีการเติบโตมากขึ้นทันทีที่สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ในขณะที่เราไม่สามารถควบคุมหลายๆปัจจัยได้ การดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้เรามีผลประกอบการที่ดีขึ้นและทำให้บริษัทฯมีกำไร แม้อยู่ในช่วงเวลานี้