NOBLE กำไร 303 ลบ. Q2 โต 84% ปันผล 1.10 บาท XD 27 ส.ค.

HoonSmart.com>> “โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์” ไตรมาส 2/63 กำไร 303 ล้านบาท โต 84% บอร์ดไฟเขียวปันผลหุ้นละ1.10 บาท XD 27 ส.ค.นี้

ธงชัย บุศราพันธ์, แฟรงค์ ฟง คึ่น เหลียง

บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 มีกำไรสุทธิ 303.37 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.66 บาท เพิ่มขึ้น 84.45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 164.47 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.36 บาท

ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2563 กำไรสุทธิ 714.05 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.56 บาท ลดลงจากงวดปีก่อนกำไรสุทธิ 1,483.82 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.23 บาท

นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) เปิดเผยว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้รายได้และผลกำไรสุทธิของบริษัทฯ เติบโตขึ้นในไตรมาส 2 ปีนี้ มาจากยอดรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดและโครงการบ้านที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นจำนวน 1,752 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้รวมในไตรมาส 2/2563 จำนวน 1,855 ล้านบาท เติบโตขึ้น 125%

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากแคมเปญ RESET PRICE, RESUME LIFE ที่รวมคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ใกล้รถไฟฟ้า ราคาพรีเซล ขายผ่านระบบออนไลน์ (Online Booking) ซึ่งสามารถกวาดยอดขายได้แบบถล่มทลายกว่า 1,600 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้มีการเปิดตัวโครงการใหม่แบรนด์ NUE อย่างต่อเนื่อง โดยทั้งปีตั้งเป้าเปิดโครงการ NUE อย่างน้อย 3 โครงการเพื่อรุกตลาดกลุ่มเป้าหมายใหม่ มูลค่าโครงการรวมมากกว่า 5,000 ล้านบาท ต่อยอดความสำเร็จแบรนด์ NUE บนทำเลศักยภาพติดรถไฟฟ้าทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี

“การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพของทีมผู้บริหารภายใต้โครงสร้างผู้ถือหุ้นชุดปัจจุบันหลังการปรับเปลี่ยนเมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างรายได้ทั้งปีมากกว่า 10,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขายพรีเซลไปแล้วกว่า 4,000 ล้านบาทจากโครงการที่เปิดใหม่และโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ทั้งนี้บริษัทฯ มีรายได้ที่รอการรับรู้ (Backlog) อีกกว่า 16,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จนถึง 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าทำตลาดออนไลน์อย่างเต็มที่ เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่มากยิ่งขึ้น” นายธงชัยกล่าว

สำหรับตลาดต่างประเทศ นายแฟรงค์ ฟง คึ่น เหลียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม กล่าวว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการสร้างยอดขายจากตลาดต่างประเทศโดยสามารถทำยอดได้กว่า 4,400 ล้านบาท ภายในช่วงเวลา 18 เดือนตั้งแต่ปี 2562 โดยในปีนี้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายไปได้แล้วกว่า 900 ล้านบาท หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 34% ของส่วนแบ่งตลาดต่างประเทศทั้งหมดในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563

“ในปีนี้แม้มีผลกระทบจากเศรษฐกิจช่วงโควิด-19 แต่บริษัทฯ ยังสามารถครองความเป็นผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศด้วยการสร้างยอดขายจากกลุ่มลูกค้าชาวเอเชียอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ เริ่มมองเห็นสัญญาณที่เป็นบวกหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายในประเทศจีนซึ่งถือเป็นประเทศที่สภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วที่สุด และฮ่องกง ซึ่งมีการมองหาอสังหาฯ ในประเทศไทย เพื่อการลงทุนและเพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 ขณะที่ไต้หวันและสิงคโปร์เป็นอีกสองตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพสูงที่บริษัทฯ มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”นายแฟรงค์ กล่าว