คลุกวงในหุ้น : BEAUTY ไม่สวยแล้ว

โดย …สุนันท์ ศรีจันทรา

www.HoonSmart.com “ เสนอความจริง ทุกการลงทุน” ปีที่ 1 วันที่ 29 มิถุนายน 2561

ตั้งแต่หุ้น บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน ) หรือ BEAUTY สร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 12 เดือน ระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา โดยราคาทะยานขึ้นไปที่ 23.70 บาท จากนั้นหุ้น BEAUTY ได้ปรับฐานลงมาตลอด จนล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ลงมาปิดที่ 12.10 บาท และไม่มีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบอย่างชัดเจน

BEAUTY ถูกถล่มอย่างหนัก โดยไม่รู้ว่า แรงขายทะลักออกมาจากไหน และมีข่าวร้ายอะไร เพราะเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ฝ่ายบริหารบริษัท เพิ่งแถลงชี้แจงข่าวลือปัญหาด้านซัพพลายเออร์ โดยยืนยันว่า ซัพพลายเออร์ที่ผลิตผลิตสินค้าให้บริษัท ได้การรับรองจากองค์การอาหารและยา(อย.)

ส่วนความเคลื่อนไหวที่อาจเป็นปัจจัยลบ หรือกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่บ้างคือ การที่ผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มไกรภูเบศ ทยอยขายหุ้นออก โดยกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นางธัญญาภรณ์และนายสุวิน ไกรภูเบศ จำหน่ายหุ้นออกคนละ 4.66% ของทุนจดทะเบียน

BEAUTY เป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปี 2555 และเป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ แม้อัตราเงินปันผลตอบแทนจะไม่สูงก็ตาม

ค่าพี/อี เรโชหุ้น BEAUTY แม้จะสูง แต่ลดลงมาต่อเนื่อง จากระดับ 50-60 เท่า ช่วง 2-3 ปีก่อน ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 31 เท่า ซึ่งเป็นผลจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลงกว่า 40% ในช่วงเวลา 2 เดือน

ไตรมาสแรกปีนี้ รายได้ของ BEAUTY ยังเติบโต เช่นเดียวกับผลกำไรสุทธิ ซึ่งมีจำนวน 282.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 199.65 ล้านบาท โดยผลประกอบการไม่ได้ส่งสัญญาณร้ายแต่อย่างใด

หลายปีที่ผ่านมา นักลงทุนเล่นหุ้น BEAUTY ขณะที่ค่าพี/อี เรโชสูงมาก นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งกองทุนรวมในประเทศ ก็แห่เข้ามาถือหุ้นตัวนี้ แม้ค่าพี/อี เรโชจะอยู่ระดับ 50-60 เท่าก็ตาม แต่ทำไมจึงมีแรงเทขายหุ้นออกมา ทั้งที่ค่าพี/อี เรโชลดลงเหลือเพียง 30 เท่า

ช่วงนี้มีหุ้นยอดนิยมหลายตัว ถูกทุบจนเดี้ยง โดยนักลงทุนไม่รู้สาเหตุ ซึ่ง BEAUTY เป็นหุ้นอีกตัวที่รูดลงมา และยังหาคำอธิบายไม่ได้

ผู้ถือหุ้นรายย่อย BEAUTY มีจำนวนทั้งสิ้น 19,803 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 64.56% ของทุนจดทะเบียน โดยสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มไกรภูเบศทยอยขายหุ้นออก โดยอ้างว่า เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขาย

และปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนในหมู่นักลงทุนรายย่อยขณะนี้ ได้ทำให้หุ้น BEAUTY มีสภาพคล่องเกินพอแล้ว จนแทบไม่มีความจำเป็นที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ จะต้องระบายหุ้นออกมาในตลาดอีก แต่กลุ่มไกรภูเบศก็ยังปล่อยหุ้นในมือออกมา และอาจเป็นประเด็นที่ทำให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจ

กลัวว่า “เจ้าของ” จะทิ้งหุ้น จนไม่กล้าเข้ามาซื้อ หรือทยอยขายออก เพื่อลดความเสี่ยง

ประเด็นที่ต้องจับตา คือ แนวโน้มผลประกอบการของ BEAUTY ซึ่งอาจไม่สดใสเหมือนหลายปีที่ผ่านมา จนเป็นที่มาของแรงขาย ฉุดให้ราคาหุ้นแกว่งตัวลงมาตลอด 2 เดือน

อีกไม่กี่สัปดาห์ BEAUTY จะประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 โดยตัวเลขผลกำไรที่ออกมา อาจเป็นคำตอบของราคาหุ้นที่กำลังทรุดหนักก็ได้

นักลงทุนที่จ้องจะลุย BEAUTY อาจต้องใจเย็น ๆ รอไปก่อน รอดูงบการเงินไตรมาสที่ 2 ถ้าผลกำไรยังดี ไม่มีสัญญาณร้ายอะไร จะช้อนซื้อในช่วงนั้นคงยังไม่สาย

ตอนนี้น้ำกำลังเชี่ยว และไม่รู้มีข่าวร้ายอะไร สุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไป เจอดีจาก BEAUTY ได้