บลจ.บีแคปเปิดตัวกองทุน SSF ครอบคลุมสินทรัพย์ทั่วโลก IPO 7-14 ส.ค.นี้

HoonSmat.com>> บลจ.บางกอกแคปปิตอล เปิดตัวกองทุน “บีแคป โกลบอลเวลท์” เพื่อการออม (BCAP-GW SSF) เสนอขายครั้งแรก 7-14 ส.ค.นี้ ชูนโยบายการลงทุนครอบคลุมทรัพย์สินทั่วโลก ตอบโจทย์บริหารการลงทุนโดยมืออาชีพ ผ่านซีรีส์ 5 กองทุน แบ่งตามระดับความเสี่ยงผู้ลงทุน พร้อมทีมผู้จัดการกองทุนดูแลปรับพอร์ตใกล้ชิด

เมธ์วดี ประเสริฐสินธนา

นางเมธ์วดี ประเสริฐสินธนา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บางกอกแคปปิตอล จำกัด หรือบลจ.บีแคป (BCAP) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายกองทุนเปิดบีแคป โกลบอล เวลท์ เพื่อการออม (BCAP-GW SSF) ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) นโยบายการลงทุนครอบคลุมทรัพย์สินทั่วโลก ออกแบบมาเพื่อใช้วางแผนการลงทุนในระยะยาว สอดรับกับเงื่อนไขกองทุน SSF ที่ต้องลงทุน 10 ปีพร้อมรับสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้เมื่อถือครองตามเงื่อนไขของกรมสรรพากรโดยกองทุนจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 7-14 สิงหาคม 2563 ลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท

กองทุน BCAP-GW SSF ซึ่งเป็นซีรีส์ของ 5 กองทุน ที่มีนโยบายการลงทุนเดียวกับกองทุนเปิดบีแคป โกลบอล เวลท์ (BCAP-GW) ที่เปิดตัวไปช่วงเดือนพฤษภาคม 2562 นอกจากจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนแล้ว กองทุนยังสร้างผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ สามารถกระจายความเสี่ยงได้อย่างดีในช่วงวิกฤตโรคระบาด COVID-19 โดยกองทุนมีนโยบายกระจายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้สินทรัพย์ทางเลือก กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน สามารถเลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยงผ่าน 5 กองทุน ซึ่งมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสินทรัพย์ทางเลือก กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานแตกต่างกันตั้งแต่ 10-90%

“กองทุน BCAP-GW SSF เปิดโอกาสลงทุนทรัพย์สินทั่วโลกที่เริ่มต้นด้วยเงินเพียง 500 บาท สามารถตอบโจทย์การบริหารการลงทุนโดยมืออาชีพซึ่งการลงทุนผ่านกองทุนรวมและกองทุน ETF ทั่วโลก จึงมีความคล่องตัวในการบริหารกองทุนสูง อีกทั้งมีทีมผู้จัดการกองทุนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และปรับพอร์ตได้ตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งตอบโจทย์นักลงทุนได้ทุกกลุ่ม” นางเมธ์วดี กล่าว

นางเมธ์วดี กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจทั่วโลกเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดจาก COVID-19 อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกปรับตัวลดลงต่ำไม่ถึง 1% ถ้าย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วคงไม่มีใครบอกว่าจะมีวันที่ดอกเบี้ยต่ำขนาดนี้ หรือจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกเติบโตติดลบ การลงทุนนับจากนี้การกระจายความเสี่ยงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด หมดยุคการลงทุนที่กระจุกตัวในสินทรัพย์เดียวหรือภูมิภาคเดียว ไม่มีใครรู้ว่าวิกฤตจะมาเมื่อไร เราต้องเตรียมพร้อมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพอร์ตการลงทุนของเราต้องได้รับผลกระทบในวงจำกัดและพร้อมที่จะคว้าโอกาสจากวิกฤตที่เกิดขึ้น

สำหรับรายละเอียดของทั้ง 5 กองทุน ได้แก่ 1. กองทุนเปิดบีแคป โกลบอลเวลท์ 10 เพื่อการออม (BCAP-GW10 SSF) จะลงทุนในตราสารทุนสินทรัพย์ทางเลือก กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานรวมกันไม่เกิน 10% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิกองทุน (NAV) เน้นลงทุนสินทรัพย์มั่นคงเป็นหลักคาดหวังโอกาสผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากธนาคาร

2. กองทุนเปิดบีแคป โกลบอลเวลท์ 25 เพื่อการออม (BCAP-GW25 SSF) จะลงทุนในตราสารทุนสินทรัพย์ทาง เลือก กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน รวมกันไม่เกิน 25% ของ NAV ซึ่งเพิ่มสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยง เพื่อสะสมความมั่งคั่งในระยะยาว

3.กองทุนเปิดบีแคป โกลบอลเวลท์ 50 เพื่อการออม (BCAP-GW50 SSF) จะลงทุนในตราสารทุนสินทรัพย์ทางเลือก กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน รวมกันไม่เกิน 50% ของ NAV ซึ่งเน้นพอร์ตเติบโต สามารถรับผลขาดทุนได้บ้าง

4. กองทุนเปิดบีแคป โกลบอลเวลท์ 75 เพื่อการออม (BCAP-GW75 SSF) จะลงทุนในตราสารทุนสินทรัพย์ทางเลือก กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานรวมกันไม่เกิน 75% ของ NAV คาดหวังผลตอบแทนสูงและรับขาดทุนได้มากขึ้น

5. กองทุนเปิดบีแคป โกลบอลเวลท์ 90 เพื่อการออม (BCAP-GW90 SSF) จะลงทุนในตราสารทุนสินทรัพย์ทางเลือก กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน รวมกันไม่เกิน 90% ของ NAV สำหรับนักลงทุนที่ไม่กลัวขาดทุน โดยเน้นผลตอบแทนให้สูงที่สุดเป็นหลัก

สำหรับผู้สนใจลงทุนสามารถติดต่อธนาคารกรุงเทพทุกสาขา โทร.1333 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.บางกอกแคปปิตอล โทร.0-2618-1360 หรือ www.bcap.co.th