HMPRO ไตรมาส 2/63 กำไร 943 ลบ. ร่วง 38% โควิดฉุดยอดขาย

HoonSmart.com>> “โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์” ไตรมาส 2/63 กำไรสุทธิ 943 ล้านบาท ลดลง 38% จากงวดเดียวกันของปีก่อน รายได้รวม 14,390 ล้านบาท ลดลง 18% จากงวดปีก่อน ผลกระทบโควิด-19 ปิดสาขาชั่วคราวในไทยและมาเลเซีย ด้านบล.เอเซีย พลัส มองกำไรลดตามคาด ด้านราคาหุ้นเต็มมูลค่า แนะโยกซื้อ DOHOME-CPALL

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 กำไรสุทธิ 942.68 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.07 บาท ลดลง 38.25% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,526.62 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท

ส่วนงวด 6 เดือนปี 2563 กำไรสุทธิ 2,209.20 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.17 บาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2,946.47 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.22 บาท

ในงวดไตรมาส 2/2563 กำไรสุทธิลดลง ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 บริษัทฯ มีรายได้รวม 14,389.88 ล้านบาท ลดลง 18.08% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งเป็นรายได้ที่ประกอบด้วยรายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 13,824.17 ล้านบาท ลดลง 2,721.14 ล้านบาท หรือ 16.45% สาเหตุหลักมาจากการปิดสาขาชั่วคราวในประเทศไทยและมาเลเซีย โดยสาขาในประเทศไทยปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.2563 แม้สามารถกลับมาเปิดดำเนินการตามปกติหลังวันที่ 17 พ.ค.2563 แต่ยังถูกจำกัดเวลาในการเปิดทำการน้อยกว่าปกติ

สำหรับสาขาในประเทศมาเลเซีย ปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.2563 และเปิดทำการในวันที่ 4 พ.ค.2563 และผลกระทบจากการยกเลิกการจัดกิจกรรม HomePro Expo ในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ซึ่งมีรายได้จากการขายของ HomePro Expo บางส่วนรับรู้อยู่ในไตรมาสที่ 2 ของปีที่ผ่านมา

สำหรับรายได้จากการขายผ่านช่องทางออนไลน์ในไตรมาสที่ 2 มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างมาก แต่ไม่สามารถชดเชยผลกระทบของสาขาที่ปิดไปได้ ด้านรายได้ค่าเช่ามีจำนวน 212.73 ล้านบาท ลดลง 296.06 ล้านบาท หรือ 58.19% เป็นผลมาจากการปิดร้านค้าเช่าที่อยู่ในพื้นที่สาขาของโฮมโปรและศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจโดยบริษัทฯ ได้ลดค่าเช่าให้แก่ผู้เช่าในช่วงเวลาดังกล่าว

ด้านบล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า HMPRO กำไรไตรมาส 2/2563 ลดลง 38.3% yoy ตามคาด โดยหลักจากมาตรการ Lockdown กดดันยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ลดลงราว 18.5%yoy ใน 2Q63 แม้ชดเชยบางส่วนจากสาขาใหม่ 5 แห่ง (+3.7%yoy) แต่ยอดขายรวมยังลดลง 16.4%yoy ใน 2Q63 ขณะที่ Net margin ลดลงเป็น 6.8% จาก 9.2% ใน 2Q62 จาก Gross margin ที่ลดลง ตามสัดส่วนยอดขายมาร์จิ้นต่ำเพิ่มขึ้น เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า

แม้ 1H63 กำไรลดลง 25% yoy อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยกดดันที่ผ่านจุดเลวร้ายไปแล้ว และยังเห็นแนวโน้ม SSSG ฟื้นตัวได้ดีราว 3% ในก.ค.63 ประกอบกับ การเปิดสาขาอีก 2 แห่ง ใน 2H63 แม้อาจจะมีแรงกดดันเรื่องประสิทธิภาพกำไรอยู่บ้าง แต่กำไรปี 2563 ลดลง 13.8% และเติบโต 25.8% ในปี 64 จากฐานต่ำ ยังเป็นไปได้อยู่ โดยรวมจึงยังคงประมาณการปัจจุบันไปก่อน

ปัจจุบันราคาหุ้น HMPRO ซื้อขาย PER’63 สูง 37 เท่า คาดสะท้อนแนวโน้มฟื้นตัวไปแล้วและยังเต็มมูลค่าพื้นฐานปี 63 ที่ 12.7 แนะ Switch ไป DOHOME ราคาเหมาะสม 12.10 บาท ที่ระยะกลางคาดหวังการเติบโตสูงกว่า และยังถูกกว่า รวมถึง CPALL ราคาเหมาะสม 78 บาท ที่ยัง Laggard