HoonSmart.com>>“เอสซีจี เซรามิกส์” หั่นเป้ารายได้ปี 63 ลดลง 10-15% จากเดิมหวังโต 3-5% ฝืนไม่ไหว มูลค่าตลาดกระเบื้องหดตัวเหลือ 2.8-3.2 หมื่นล้านบาท มองครึ่งหลังขายน้อยลง 10% ธุรกิจอสังหาฯชะลอตัว ส่วนตลาดต่างประเทศ คู่ค้าเริ่มฟื้นตัว นำเสนอกลยุทธ์วัตกรรมใหม่ สร้างการเติบโตในอนาคต วางงบลงทุน 350-400 ล้านบาท ใช้ลงทุนพัฒนาเครื่องจักร-ขยายสาขา-ใช้บริหารจัดการต้นทุนพลังงาน
นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ (COTTO) เปิดเผยว่า จากผลกระทบโควิด-19 ทำให้บริษัทฯปรับเป้ารายได้ปี 2563 ลดลง 10-15% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 3-5% จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 11,291.82 ล้านบาท ตามภาพรวมอุตสาหกรรมกระเบื้องที่ลดลงประมาณ 10-15% หรือมูลค่ารวมลดลง 28,000-32,000 ล้านบาท จากปีก่อนหน้าที่อยู่ประมาณ 30,000-35,000 ล้านบาท เนื่องจากผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว คาดช่วงครึ่งปีหลังยอดขายลดลง 10%
ส่วนการส่งออกไปยังตลาด CLV อเมริกา ยุโรป และโอเชียเนีย ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ในช่วงไตรมาสที่ 2/63 ดีกว่าคาดไว้มากและขณะนี้ตลาดส่งออกเริ่มดีขึ้นบ้างในกลุ่มประเทศที่กำลังฟื้นตัว แต่ความต้องการสินค้าในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อัตราการใช้กำลังการผลิตกลับมาเพิ่มขึ้นที่ 60-70% จากช่วงล็อกดาวน์ลดลงไปเหลือ 50% หลังยอดขายทยอยฟื้นตัวมาตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
สถานการณ์ตลาดในประเทศจะค่อย ๆ คลี่คลายลงตามลำดับ ตามที่ภาครัฐมีแนวทางและมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จะช่วยให้ตลาดมีความต้องการใช้กระเบื้องเซรามิกและวัสดุก่อสร้างดีขึ้น โดยบริษัทเตรียมความพร้อมในการวางแผนการผลิตเพื่อบริหารสต๊อกสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
นอกจากนี้บริษัทพยายามพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต กลยุทธ์ในช่วงครึ่งของปีนี้ จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ตระหนักถึงเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยภายในบ้านมากขึ้น บริษัทได้เร่งออกสินค้าที่ตอบโจทย์ อาทิกระเบื้อง Hygienic Tile หรือกระเบื้องยับยั้งแบคทีเรีย และแผ่นปูพื้น LT แบบ Smart Flexible เป็นวัสดุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ติดตั้งง่าย นอกจากนี้ยังมีธุรกิจสร้างซ่อม ตกแต่ง ต่อเติม ติดตั้งวัสดุกรุผิว ที่เติบโตในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ปัจจุบันให้บริการที่ กรุงเทพ เชียงใหม่ ระยอง และชลบุรี วางเป้าใน 2 ปีนี้ (63-64) จะเพิ่มอีก 30 จุด
ส่วนงบลงทุนในปีนี้ วางไว้ที่ 350-400 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าที่ 370 ล้านบาท โดยงบที่วางไว้ใช้ลงทุนในการปรับปรุงและพัฒนาเครื่องจักร ใช้ในการขยายสาขา และใช้ในการบริหารจัดการต้นทุนพลังงาน
COTTO เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใต้แบรนด์คอตโต้ (COTTO) โสสุโก้ (SOSUCO) และ คัมพานา (CAMPANA) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/63 บริษัทมีกำไรสุทธิ 41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 95% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเพียง 21 ล้านบาท แต่เทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ กำไร 124 ล้านบาท ลดลงไปมากประมาณ 67% โดยรวมครึ่งปีมีกำไรสุทธิ 166 ล้านบาท ดีขึ้นเฉียด 10% จากกำไรสุทธิ 151 ล้านบาท
นอกจากนี้ในไตรมาส 2/63 บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,369 ล้านบาท ลดลง 15% ส่วนงวดครึ่งปีแรกทำได้ 4,892 ล้านบาท ลดลง 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อ่านประกอบ
COTTO กำไร Q2 พุ่ง 95% ปีก่อนบุ๊กค่าใช้จ่ายพนง.-ยอดขายร่วง 15%