บล.เคทีบีมองบวกกลุ่มแบงก์ลดเงินส่ง FIDF คงน้ำหนัก “เท่าตลาด” ชู BBL เด่น

HoonSmart.com>> บล.เคทีบี มอง “บวก” แบงก์ชาติขยายเวลาแบงก์ลดเงินนำส่งเข้า FIDF จาก 0.46% เหลือ 0.23% ช่วยลดต้นทุน คาดแบงก์ใหญ่ได้ประโยชน์ แต่อัพไซด์จำกัด เชื่อแบงก์นำเงินตั้งสำรองเพิ่ม คงน้ำหนักลงทุน “หุ้นกลุ่มแบงก์” เท่าตลาด แนะซื้อ BBL เป้า 130 บาท

บริษัทหลักทรัพย์เคทีบี มีมุมมองเป็น “บวก” กรณีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีโอกาสขยายเวลาแบงก์ลดเงินนำส่งเข้า FIDF จะช่วยลดต้นทุนทางการเงินของธนาคารลงได้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลง โดยบล.เคทีบี ได้ทำ sensitivity หากปรับลดเงินนำส่ง FIDF ลงเหลือ 0.23% จาก 0.46% ในปี 2565 ต่ออีก พบว่า กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ได้ประโยชน์มากกว่าธนาคารขนาดเล็ก โดย KTB ได้รับผลดีมากที่สุด โดยกำไรสุทธิมี upside เพิ่ม +14% รองลงมาเป็น BBL ที่ +13% และ SCB ที่ +10% ส่วน KBANK +9%

แต่อย่างไรก็ดี บล.เคทีบี คาดว่า ธนาคารจะดำเนินงานอย่าง conservative ทำให้เชื่อว่า upside ดังกล่าวจะมีไม่มาก เพราะธนาคารจะนำไปตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้น

ส่วนประเด็นเรื่องการไม่ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือที่จะหมดอายุในเดือน ต.ค.2563 นั้น บล.เคทีบี มองว่าส่งผลดีต่อธนาคารในแง่ของกระแสเงินสดที่จะเข้ามา ทำให้ธนาคารไม่ขาดสภาพคล่องและเชื่อว่าแต่ละธนาคารจะจัดการกับลูกหนี้ที่มีปัญหาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การช่วยเหลือโดยการปรับโครงสร้างหนี้

“เรายังคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มธนาคารเป็น “เท่ากับตลาด” ชอบ BBL แนะซื้อ เป้า 130.00 บาท เพราะเป็นธนาคารที่ต้านทานภาวะเศรษฐกิจได้ดี และมีผลดีจากการรวมธนาคารเพอร์มาตาที่จะเพิ่ม upside ต่อประมาณการกำไรสุทธิในปี 2564 ประมาณ 10%” บล.เคทีบี แนะนำ

ทั้งนี้ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า มีโอกาสที่ธปท.จะขยายเวลาลดเงินนำส่งเข้า FIDF ซึ่งปัจจุบันลดลงจาก 0.46% เหลือ 0.23% ในช่วงปี 2063 และ 2564 ออกไปอีก เพื่อให้สถาบันการเงินลดต้นทุนทางการเงินและมีสภาพคล่อง สามารถเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าให้ฟื้นตัวได้มากขึ้น ขณะที่ ธปท. จะไม่ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย และ SME โดยให้สถาบันการเงินปรับโครงสร้างหนี้ ให้สัดส่วนหนี้เหมาะสมกับรายได้ในอนาคต และฟันธงไม่ทำ “ไทยQE” เน้นอัดฉีดสภาพคล่องตรงจุด ย้ำชัดไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอัตราดอกเบี้ยเป็น 0% ไม่ได้