ดาวโจนส์ปิดร่วง 396 จุด ทำเนียบขาวจ่อคุมวงเงินมาตรการกระตุ้นศก.

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดร่วง 396 จุด ทำเนียบขาวจ่อคุมวงเงินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นยุโรปร่วงยกแผงกังวลการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันดิบลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 7 กรกฎาคม 2563 ที่ 25,890.18 จุด ลดลง 396.85 จุด หรือ 1.51% นักลงทุนวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจ ภาวะสาธารณสุขและการตอบสนองของนโยบายต่อการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ตลอดจนแนวโน้มเศรษฐกิจโลกท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายรัฐของสหรัฐฯ

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,145.32 จุด ลดลง 34.40 จุด, -1.08%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,343.89 จุด ลดลง 89.76 จุด, -0.86%

ตลาดปรับตัวลดลงหลังจากทำเนียบขาวจ่อคุมวงเงินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ไว้ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์หรือน้อยกว่า และลดลงต่อเนื่องเมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง(เฟด)หลายคนให้ความเห็นว่าความท้าทายทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากการที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายรัฐ

นายมาร์ก ชอร์ต ผู้ช่วยรองประธานาธิบดีไมก์ เพนซ์เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ทำเนียบขาวต้องการให้สภาคองเกรสคุมวงเงินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์หรือน้อยกว่า เพราะได้อัดฉีดเงินจำนวนมากเข้าระบบแล้วผ่าน 2 มาตรการที่ผ่านมา ดังนั้นมูลค่ามาตรการจะอยู่ประมาณนั้น

นายจอน อดัมส์ นักวิเคราะห์จากบีเอ็มโอแอสเซ็ทแมเนจเม้นท์ชี้ว่าการให้สัมภาษณ์แสดงให้เห็นว่านโยบายเป็นปัจจัยที่ขัยเคลื่อนตลาดและเป็นปัจจัยเดียวที่มีผลความต้องการของพรรครีพับลิกันที่จะคุมวงเงินมาตรการกระตุ้นมีขึ้นในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านคน และรัฐอริสโซนา แคลิฟอร์เนีย เท็กซัสและหลายรัฐพากันกังวลที่จำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกับทำเนียบขาวเมื่อวันอังคารได้เริ่มกระบวนการอย่างเป็นทางการเพื่อถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก(World Health Organization) โดยมีกำหนดภายใน 1 ปีซึ่งมีผลต่อการเป็นแหล่งเงินใหญ่ของ WHO ระหว่างการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19

ในช่วงแรกของการซื้อขาย นักลงทุนมีความหวังจากรายงานการจ้างงานที่ชี้ว่า 6.5 ล้านคนมีงานทำหรือได้รับการว่าจ้างในเดือนพฤษภาคม หลังจากมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลานาน

สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ว่า การเปิดรับสมัครงานเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 401,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 5.4 ล้านจาก 5 ล้านในเดือนก่อนและอัตราการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.9% จากระดับ 3.7% ในเดือนเมษายน

นางแมรี ดาลีย์ ประธานเฟดสาขาซาฟรานซิสโกกล่าวว่า อัตราการว่างงานสะท้อนถึงผลกระทบจากไวรัสต่อเศรษฐกิจ ขณะที่นายโทมัส บาร์กิน ประธานาเฟดสาขาริชมอนด์กล่าวในการเสวนาออนไลน์ของ National Association for Business Economics ว่า เฟดยังต้องทำอีกมากกับอัตราว่างงาน 11.1%
หุ้นโนวาแวกซ์ บริษัทผลิตวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 31.6% หลังรัฐบาลสหรัฐประกาศให้เงินทุนแก่บริษัทจำนวน 1,600 ล้านดอลลาร์ เพื่อทำการทดสอบและผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะผลิตวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดสภายในเดือนมกราคมปีหน้า

หุ้น Tripadvisor ลดลง 5.2% หลังประกาศแผนการออกหุ้นกู้วงเงิน 500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีกำหนดไถ่ถอนในปี 2025

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีลดลง 1.2% นักลงทุนกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและข้อมูลเศรษฐกิจเยอรมนีที่อ่อนแอ

การผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 7.8% ต่ำกว่า 10% ที่นักวิเคราะห์คาด แม้จะดีขึ้นจาก -17.5% ในเดือนเมษายน
คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ลงโดยคาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซน 27 ประเทศสมาชิกจะติดลบ 8.3% แต่ขยายตัว 5.8% ในปี 2021 และจีดีพีรวมทั่วทั้งภูมิภาคจะหดตัว 7.4% แต่ขยายตัว 6.1% ในปีหน้า

ในอังกฤษนักลงทุนรอการประกาศแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากรัฐบาล โดยคาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเพิ่มเพิ่มเติม

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 368.96 จุด ลดลง 2.25 จุด, -0.61%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,189.90 จุด ลดลง 96.04 จุด, -1.53%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,043.73 จุด ลดลง 37.78 จุด, -0.74%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,616.80 จุด ลดลง 116.65 จุด, -0.92%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 40.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 2 เซนต์ ปิดที่ 43.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อ่านข่าว

ราคาน้ำมันดิบลดลงกังวลผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งในสหรัฐฯ-ทั่วโลก