โดย… นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ
วันศุกร์ที่ผ่านมาราคาบิทคอยน์ได้ร่วงลงอย่างรุนแรงอีกครั้ง เมื่อมีข่าวว่า เวปซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ชื่อบริษัท BitFlyer จะหยุดให้บริการลูกค้าใหม่ หลังจากหน่วยงานภาครัฐระบุว่าทางบริษัทยังไม่มีมาตรการที่ดีพอในการควบคุมและป้องกันการฟอกเงิน และยังมีคำสั่งนี้ไปอีก 5บริษัท ให้ปรับปรุงและหามาตรการป้องกันการฟอกเงินที่มีประสิทธิภาพ ทันทีที่ข่าวนี้ออกสู่ตลาดก็ทำให้ราคาบิทคอยน์ร่วงลงทันทีกว่า 10% และช่วงบ่ายวันอาทิตย์ก็ไหลลงไปสู่จุดต่ำสุดของปี 2018 ที่ $5,840 ในขณะที่ AltCoin อื่น ๆลบมากว่าสิบเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะ EOS ที่ลบไปถึง 25%
มีหลายเหตุผลที่ทำให้ขาลงของตลาดเงินดิจิทัลยังไม่จบลงง่ายๆ เช่น การสอบสวนเรื่องที่ Bitfinexใช้ USDT หรือ Tether สร้างราคาบิทคอยน์ในปีที่แล้วก็ยังไม่ได้ข้อสรุป นอกจากนี้ตลาดยังมีการคาดการณ์ความต้องการบิทคอยน์มากเกินจริง และเมื่อคนส่วนใหญ่เริ่มผิดหวัง ก็ทำให้เกิดการขายออกมา และที่สำคัญที่สุดก็คือกฎเกณฑ์การควบคุมจากภาครัฐของประเทศต่าง ๆยังไม่เอื้ออำนวยต่อตลาดเงินดิจิทัลนัก
อาทิเช่น ล่าสุดทางธนาคารกลางของอินเดียก็ออกเตือนธนาคารพาณิชย์ไม่ให้ทำธุรกรรมกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเงินดิจิทัล ทำให้ทาง Zebpay ซึ่งเป็นเวปซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดในอินเดียต้องออกมาประกาศแจ้งให้สมาชิกซึ่งมีกว่า 3 ล้านบัญชี ให้รีบถอนเงินสดที่เป็นเงินรูปีออกจากบัญชีให้หมด ก่อนที่จะถอนออกไม่ได้ เลยทำให้เกิดแรงขายเงินดิจิทัลออกมาอย่างมากในตลาดอินเดีย ช่วงนี้นักวิเคราะห์ทางเทคนิคส่วนใหญ่เริ่มมองเห็นตรงกันว่า ราคาบิทคอยน์อาจร่วงลงไปสู่ระดับ $4,000-$5,000 ก่อนที่จะเริ่มกลับตัวเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งคงต้องรอดูกันต่อไป แต่ผมว่าตอนนี้ถือเงินสดเอาไว้ก่อนดีกว่าครับ
Disclaimer: เนื้อหาในบทความนี้เขียนจากความรู้และประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่คำแนะนำด้านการเงินหรือการลงทุน และผู้เขียนก็มิได้เป็นผู้แนะนำด้านการเงินการลงทุน ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณก่อนตัดสินใจลงทุน