บล.ทรีนีตี้คาดตลาดผันผวนต่อ เป็นโอกาสเลือกซื้อหุ้นดีราคาถูก แนะนำ “พอร์ตมั่นคง” ลงทุน 5 หุ้น MINT, PTT, BANPU, CK, SCC และ “พอร์ตว่องไว” ลงทุน 3 บริษัท BLAND, RJH, SCC ส่วนหุ้นปันผลเลือกจาก 3 กลุ่ม คือ โรงกลั่น, พลังงาน, ที่อยู่อาศัย ราคาปรับตัวลงไปมาก เช่น PTT และ LH บล.เอเซียพลัส แนะนำหุ้นปันผล LH และ RATCH
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ทรีนีตี้ กล่าวว่า แนวโน้มหุ้นทั่วโลกยังคงผันผวนต่อเนื่องในระยะสั้น 1 เดือน จากความกังวลเรื่องปัจจัยต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสดีในการเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดี ในภาวะที่ตลาดปรับตัวลงมามาก จนมาอยู่ระดับที่น่าสนใจ เมื่อพิจารณาจากพี/อีต่ำ ราคาต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี(พี/บีวี)และผลตอบแทนปันผล
“ที่ผ่านมาตลาดขึ้นมา เพราะหุ้นเพียงไม่กี่ตัว ตอนนี้ลงทุนยากมาก เลือกเป็นกลุ่มไม่ได้ หากนักลงทุนเหวี่ยงแห่ผิดตัวอาจจะขาดทุนมาก ต้องโฟกัสให้ดี ถ้าไม่รู้ว่าจะเลือกหุ้นอะไรดี สามารถใช้ข้อมูลของ “TRINITY Smart Wealth “ 2 สไตล์การลงทุน “พอร์ตมั่นคง” และ”หุ้นว่องไว” ซึ่งทรีนีตี้ได้ใช้ทีมงาน เลือกหุ้นเข้าพอร์ต และพิสูจน์มาแล้วว่าผลงานชนะตลาดหุ้นโดยรวม หรือหากต้องการหุ้นปันผลที่จ่ายกลางปี ก็เลือกให้ได้ คาดผลตอบแทนสูงกว่า 4%ต่อปี เช่น บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์(LH) ”นายณัฐพลกล่าว
สำหรับพอร์ตมั่นคง บล.ทรีนีตี้เริ่มเปิดให้บริการ เมื่อวันที่ 27 ก.พ. จนถึงปัจจุบัน ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ลดลง ประมาณ 11% พอร์ตนี้ติดลบ 5.9% คาดการลงทุนระยะกลางและยาวจะสามารถกลับมาเป็นบวกได้ จากการคาดการณ์แนวโน้มตลาดในครึ่งปีหลังจะดีขึ้น มีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับ 1,680-1,700 จุด พอร์ตมั่งคง เลือกหุ้นพื้นฐานดีและราคาลดลงมาก จำนวนไม่เกิน 5 บริษัท เพื่อให้แต่ละตัวมีน้ำหนักไม่เกิน 20% หุ้นล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่งซื้อ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย(SCC) หลังจากซื้อ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) บริษัทปตท.(PTT) บริษัทบ้านปู(BANPU) และบริษัทช.การช่าง(CK)
ส่วน”พอร์ตว่องไว” เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. จนถึงปัจจุบัน ดัชนีหุ้นลดลง 9% พอร์ตนี้ลดลง 5% โดยใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการเลือกหุ้นเพื่อลงทุนระยะสั้น ขณะนี้ลงทุน 3 บริษัท คือ บริษัทบางกอกแลนด์(BLAND) บริษัท โรงพยาบาลราชธานี(RJH) และ SCC
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้นเพื่อรับเงินปันผลกลางปีด้วย แนะนำให้เลือกซื้หุ้นใน 3 กลุ่ม คือ โรงกลั่น พลังงาน-ปิโตรเคมี และที่อยู่อาศัย เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก โดยเฉพาะโรงกลั่นได้รับผลกระทบจากคาดการณ์กำไรในไตรมาส 2 ออกมาไม่ดีนัก
อย่างไรก็ตาม หุ้นพลังงานมีโอกาสลดลง ได้รับผลกระทบจากกรณีนักวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรสุทธิลง หลังจากเพิ่มสมมุติฐานเรื่องราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าสูงเกินไป ในส่วน บล.ทรีนีตี้ปรับราคาน้ำมันดูไบ อยู่ที่ 36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์น่าสนใจ มีโอกาสปรับขึ้น หลังราคาลดลงรับผลกระทบลดค่าธรรมเนียมการโอนไปมากแล้ว สัญญาณหนี้เสียดีขึ้น ลดภาระการตั้งสำรอง “นายณัฐชาต
ทางด้านบล.เอเซียพลัสออกบทวิเคราะห์การลงทุนในสัปดาห์นี้(25-29 มิ.ย.) คาดดัชนียังคงผันผวนในระยะสั้น ทำให้การเก็งกำไรยากขึ้น แต่พี/อีที่ลงมาอยู่ระดับ 15 เท่า การลงทุนระยะยาวเป็นโอกาสดีสําหรับการเลือกหุ้น แนะนำหุ้นปันผล 2 บริษัทคือ LH ให้มูลค่าเหมาะสม 13.40 บาท และบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง(RATCH) มูลค่าเหมาะสม 61 บาท โดยพิจารณาจากการจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง อัตราผลตอบแทนสูงกว่า 4% เบต้าต่ำ ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นมากกว่า 15%
ทั้งนี้ กลุ่มโอเปกมีมติเพิ่มกำลังการผลิตจำนวน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน คาดมีผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานในสัปดาห์นี้ เช่นเดียวกับดัชนีดาวโจนส์ที่ดีดขึ้น 119 จุดหรือ 0.49% ปิดที่ 24,580.89 จุด หลังจากลดลงติดต่อกัน 8 วัน ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น