“บีโอเจ” ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง

HoonSmart.com>> “บีโอเจ” คงนโยบายการเงิน พร้อมส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง

ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ในการประชุมนโยบายการเงินวันนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ -0.1% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีใกล้ 0% รวมทั้งคงมาตรการซื้อสินทรัพย์ ขณะที่ขยายมาตรการช่วยเหลือด้าน สภาพคล่องแก่ภาคเอกชนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 110 ล้านล้านเยน จากเดิมที่ 75 ล้านล้านเยน

บีโอเจส่งสัญญาณว่าพร้อมสนับสนุนสภาพคล่องทั้งเงินเยนและเงินตราต่างประเทศให้เพียงพอผ่านมาตรการซื้อสินทรัพย์และ Dollar funding operations อย่างไม่จำกัด

สำหรับรายละเอียดสำคัญของมติที่ประชุม

1. ขยายมาตรการช่วยเหลือด้านสภาพคล่องแก่ภาคเอกชน โดย (1) ขยายวงเงินมาตรการปล่อยกู้ให้กับบริษัทเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (Fund-Providing Measure) จาก 55 ล้านล้านเยนเป็น 90 ล้านล้านเยน แต่ (2) คงขนาดมาตรการซื้อตราสารหนี้เอกชนไว้ที่ 20 ล้านล้านเยน ทำให้วงเงินมาตรการช่วยเหลือภาคเอกชนเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 75 ล้านล้านเยนมาอยู่ที่ 110 ล้านล้านเยน โดยมาตรการจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2021

2. คงขนาดการเข้าซื้อสินทรัพย์อื่นๆ ได้แก่ ซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ไม่จำกัดวงเงิน ETFs ที่ 12 ล้านล้านเยน และ J-REITs ที่ 1.8 แสนล้านเยน

3. บีโอเจส่งสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงินและสนับสนุนสภาพคล่องให้ธุรกิจและตลาดการเงิน โดยจะยังติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด พร้อมจะใช้มาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมเมื่อจำเป็น และส่งสัญญาณว่าจะยังไม่มีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน 2 ปีข้างหน้า

มุมมองต่อเศรษฐกิจ บีโอเจประเมินว่า ผลกระทบของการระบาดกดดันให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นอ่อนแอ แต่ เศรษฐกิจจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นหลังจากการกลับมาเปิดเมือง ทำให้มองว่าระดับการผ่อนคลายนโยบายในปัจจุบันนั้นยังเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การระบาดในญี่ปุ่นและทั่วโลกยังคงรุนแรง และผู้ว่าบีโอเจแสดงความกังวลถึงการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นที่เลี่ยงความเสี่ยงติดเชื้อนั้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยเฉพาะในภาคบริการและบริษัทขนาดย่อมประสบปัญหา ขณะที่การฟื้นตัวของการบริโภคต้องขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของภาคเอกชน

ธนาคารกสิกรไทย มองว่า บีโอเจจะยังต้องดำเนินผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นต่อไป จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะหดตัวรุนแรงในไตรมาสที่ 2 หลังจากที่หดตัวติดต่อกันในช่วงสองไตรมาสก่อนหน้า และอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มติดลบในปีนี้ นอกจากนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในญี่ปุ่นยังกลับมาสูงขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนที่ 70 รายเมื่อวานนี้ หลังจากการผ่อนคลายภาวะฉุกเฉินในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ขณะที่เงินเยนผันผวนจากภาวะตลาดการเงินโลกที่ไม่แน่นอน