THL ขายทิ้งธุรกิจโรงไฟฟ้ามูลค่า 100 ลบ.นำเงินเสริมสภาพคล่องกลุ่ม

HoonSmart.com>> บอร์ดทุ่งคาฮาเบอร์ อนุมัติบริษัทฯ และบริษัทย่อยขายหุ้น “ทีเอชแอล พาวเวอร์” ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก มูลค่า 100 ล้านบาท นำเงินเสริมสภาพคล่อง ลดภาระรายจ่ายภายในกลุ่มบริษัท พร้อมทั้งแบ่งขายหุ้น Royal Carats Gems สัดส่วน 6% ในประเทศแซมเบีย

บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ (THL) เปิดเผยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2563 อนุมัติให้จำหน่ายเงินลงทุนโดยขายหุ้นสามัญที่บริษัทถืออยู่ในบริษัท ทีเอชแอล พาวเวอร์ จำกัด ให้กับบริษัท เอ็มพี เอ็นเนอร์ยี จำกัด จำนวน 980,000 หุ้น รวมทั้งบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท 89 แคปริคอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จะขายหุ้นที่ถือจำนวน 10,000 หุ้นและบริษัท สกายฟลิฟฟ์ จำกัด ขายหุ้น 10,000 หุ้นในบริษัท ทีเอชแอล พาวเวอร์ รวม 20,000 หุ้น มูลค่ารวมทั้งหมด 100 ล้านบาท ชำระเงินทั้งจำนวนภายใน 5 วันนับจากวันที่ลงนามในสัญญาซื้อขาย

สำหรับเงื่อนไขภาระผูกพัน บริษัทฯ ค้ำประกันเงินกู้ยืมกับสถาบันการเงินและใช้เป็นทรัพย์สินประเภทที่ดินของบริษัทย่อยค้ำประกัน ซึ่งหลักประกันมีมูลค่ารวม 197.51 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ซื้อจะไถ่ถอนหรือเปลี่ยนหลักประกัน รวมทั้งปลดเปลื้องภารผูกพันให้กับบริษัทภายใน 6 เดือน นับจากวันที่ลงนามในสัญญาซื้อขาย ดังนั้น มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนในการจำหน่ายเงินลงทุนตามสัญญาซื้อขายมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 298.01 ล้านบาท

บริษัท ทีเอชแอล พาวเวอร์ ดำเนินธุรกิจผลิตและขายพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก การผลิตและการส่งไฟฟ้า การผลิตอุปกรณ์ควบคุมและจ่ายไฟฟ้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน ต่อมาในปี 2561 บริษัท ทีเอชแอล พาวเวอร์ ได้ซื้อหุ้นของบริษัท สวัสดี เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนโครงการโซลาร์ ฟาร์ม ของสหกรณ์การเกษตรพูนสุข จำกัด ซึ่งได้รับสิทธิเข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำหน่ายในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ ที่อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร และลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) 25 ปีกับ กฟภ. เพื่อขายกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมดให้แก่ กฟภ. โดย ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2561 บริษัท สวัสดีเอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับ กฟภ.

สาเหตุที่ขายหุ้นออก เนื่องจากสภาพโดยรวมของธุรกิจในด้านพลังงานไฟฟ้านั้น เป็นธุรกิจที่มีการลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก แต่จะได้รับผลตอบแทนในระยะยาว ซึ่งบริษัทยังมีบริษัทในเครือซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานค่อนข้างสูงมีปัญหาด้านสภาพคล่องของเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัทในเครือ อีกทั้งยังมีผลขาดทุนสะสมในอดีตอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เมื่อบริษัทสามารถจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทในเครือดังกล่าวในราคาที่เหมาะสมซึ่งถือเป็นโอกาสที่ บริษัทจะลดภาระรายจ่ายใน
บริษัทในเครืออีกทั้งยังได้รับเงินสดกลับเข้ามาเพื่อใช้หมุนเวียนในธุรกิจได้จำนวนหนึ่งและยังสามารถนำไปลงทุนในธุรกิจที่เหมาะสมต่อไป

บริษัทจะได้รับเงินจากการจำหน่ายเงินลงทุนของบริษัทและบริษัทในเครือ ดังนี้โดยบริษัทฯ ได้รับเงิน 98,000,000 บาท บริษัท สกายคลิฟฟ์ได้รับเงิน 1 ล้านบาทและบริษัท 89 แคปริคอร์น ดีเวลลอปเมนท์ ได้รับเงิน 1 ล้านบาท โดยจะนำเงินไปใช้หมุนเวียนในกิจการของแต่ละบริษัทต่อไป

คณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติให้จำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท Royal Carats Gems Limited บริษัทจัดตั้งในประเทศสาธารณรัฐแซมเบียให้กับ Mr.Thet Wai Hlaing ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทจำนวน 3,600 หุ้น คิดเป็น 6% ของทุนจดทะเบียน คิดเป็นมูลค่า 50.40 ล้านบาทจากปัจจุบันถือหุ้น 25% อย่างไรก็ตามสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ผู้ซื้อจึงไม่สามารถเดินทางมาทำสัญญาซื้อขาย ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการจัดทำสัญญา และจะให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ก.ค.2563 หรือหลังจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 จะดีขึ้น

อย่างไรก็ตามผู้ซื้อ เป็นผู้ขายเดิม ที่ขายหุ้นให้แก่บริษัทฯ โดยที่บริษัทฯ ยังชำระราคาไม่ครบตามจำนวน ดังนั้น ผู้ซื้อจึงไม่ต้องชำระเงินค่าซื้อขาย และยินยอมให้บริษัทฯ หักเงินค่าซื้อหุ้นจำนวนเงิน 50.40 บาท ออกจากจำนวนเงินที่บริษัทฯ ต้องชำระเงินให้แก่ผู้ซื้อ

การขายหุ้นในครั้งนี้เป็นการทำตามข้อตกลงใหม่ของกลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัท Royal Carats Gems Limited เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและยืดหยุ่นระหว่างผู้ลงทุนต่างชาติกับผู้ลงทุนท้องถิ่น ซึ่งยังสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของบริษัทเพื่อรับผลประโยชน์ในเงินปันผล โดยมิได้เข้าร่วมบริหาร ซึ่งในข้อตกลงใหม่ของกลุ่มผู้ถือหุ้น ได้ให้บริษัทแต่งตั้งตัวแทนของบริษัทเข้าร่วมเป็นคณะตัวแทนผู้สังเกตุติดตามการด าเนินงานของบริษัท Royal Carats Gems Limited เพื่อรายงานต่อบริษัทอย่างสม่ำเสมอ อันจะเป็นประโยชน์อย่างสูงสุดต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น