GULF เพิ่มลงทุน “โอมาน” เล็งขยายธุรกิจไฟฟ้า-น้ำ-ก๊าซ

HoonSmart.com>>กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯเซ็นสัญญาซื้อหุ้น เพิ่มการลงทุนในประเทศโอมาน  มองเห็นโอกาสขยายธุรกิจสาธารณูปโภคในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm  สัญญา 25 ปี ต่ออีก 25 ปี หลังจากเปิดขายไฟฟ้าและน้ำจืดให้โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ ปี 64-65 

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยว่า วันที่ 6 ก.ย. 2561 บริษัทเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติกำลังการผลิตติดตั้งรวม 326 เมะวัตต์(MW)และมีกำลังการผลิตน้ำจืด 1,667 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง (โครงการ DIPWP) ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm ที่ประเทศโอมาน ร่วมกับ Centralised Utilities Company L.L.C. (Marafiq) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ OQ SAOC. (เดิมชื่อ Oman Oil Company S.A.O.C.) ในสัดส่วน 45% และ 55% ตามลำดับ เพื่อผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าและน้ำจืดให้กับโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ คือ Duqm Refinery and Petrochemical Industrial Company L.L.C. ซึ่งเป็นโครงการที่ร่วมทุนระหว่างบริษัทพลังงานขนาดใหญ่จากสองประเทศ ได้แก่ OQ จากประเทศโอมาน และ Kuwait Petroleum International จากประเทศคูเวต

สำหรับโครงการ DIPWP อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2564 ถึง 2565

ทั้งนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm ซึ่ง Marafiq ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภค เช่น ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจน้ำ และธุรกิจก๊าซ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm เป็นระยะเวลา 25 ปี และสามารถขยายอายุสัญญาต่อได้อีก 25 ปี บริษัทฯ จึงได้เข้าเจรจากับ Marafiq ในการปรับโครงสร้างการถือหุ้น โดยให้Marafiq ถือหุ้นในโครงการ DIPWP ทั้งหมด 100% และให้บริษัทฯ เข้าถือหุ้นใน Marafiq ร่วมกับ OQ ในสัดส่วน 49% และ 51% ตามลำดับ เพื่อจะร่วมกันพัฒนาโครงการสาธารณูปโภค เช่น การผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า น้ำจืด ไอน้ำ น้ำเย็นแบบรวมศูนย์ (District Cooling) การบริหารจัดการน้ำเสียและท่อน้ำทิ้ง การบริหารจัดการของเสียจากอุตสาหกรรม การจำหน่ายก๊าซธรรมชาติและก๊าซอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีศักยภาพ สามารถรองรับความต้องการของกลุ่มธุรกิจที่จะเติบโตในอนาคตและสอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2563 Gulf International Holding Pte. Ltd. (GIH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาผู้ถือหุ้น กับ OQ เพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นในโครงการ DIPWP และเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Marafiq เป็น 49%

ด้านบล.เอเซีย พลัส มองว่า ถือเป็นการปรับโครงสร้างการลงทุนและบวกเล็กน้อยต่อ GULF สำหรับการมาซึ่งธุรกิจสาธารณูปโภคเพิ่มเติม แต่ไม่มีนัยฯ ต่อประมาณการและ FV ของฝ่ายวิจัย โดยการปรับโครงสร้างถือหุ้นดังกล่าวจะทำให้ในอนาคต GULF มีโอกาสที่จะเติบโตไปกับการขยายการลงทุนของ Marafiq ซึ่งได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการทำธุรกิจสาธารณูปโภค เช่น ธุรกิจน้ำ/ไฟฟ้า/ก๊าซฯ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm เป็นเวลา 25 ปี (สามารถต่อได้อีก 25 ปี)

ทั้งนี้จากราคาหุ้น GULF ที่ปัจจุบันยังคงเต็ม FV ที่กำหนดไว้ ประกอบกับ PER’63 ที่สูงถึง 84 เท่า มากกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯซึ่งอยู่ที่ 38 เท่า ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ “Swtich” ไป BGRIM ราคาเหมาะสม 62 บาท และ GPSC ราคาเหมาะสม 91 บาท ที่มี upside ให้เข้าลงทุนมากกว่า