เอเซียพลัส-คิงส์ฟอร์ด ชี้ยืดเวลาลดผลิตหนุนน้ำมันขึ้น แนะซื้อ PTTEP-PTT-IVL-PTTGC

HoonSmart.com>> บล.เอเซีย พลัส มองโอเปกพลัสขยายเวลาลดกำลังการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันออกไปอีก 1 เดือน หนุนราคาน้ำมันดิบ ผลดีหุ้นกลุ่มพลังงาน แนะ PTTEP-PTT ด้านกลุ่มโรงกลั่น-ปิโตรฯ แนะ IVL-PTTGC ฟากบล.คิงส์ฟอร์ด ให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มพลังงาน “เท่า” ตลาด แนะ PTTEP-PTT “หยวนต้า” มองหุ้นพลังงานรับข่าวดีไปแล้ว

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส มองกรณีผลการประชุม OPEC+ เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่คาด มีมติขยายเวลาลดกำลังการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน สิ้นสุดเดือน ก.ค. 2563 ขยายเพียง 1 เดือน เทียบกับเติมคาดคาดขยาย 1-3 เดือนและตัวเลขแรงงานสหรัฐที่ออกมาดีดังกล่าว หนุนให้ปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent ยืนเหนือ 40 เหรียญ และทำจุดสูงสุดตั้งแต่ 6 มี.ค. 2563 โดยรวมดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงานทั้ง PTTEP ราคาเหมาะสม 100 บาท และ PTT ราคาเหมาะสม 42 บาท เน้นให้หาจังหวะเข้าลงทุน

ส่วนกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า spread ของทั้งปิโตรเลียมและปิโตรเคมีน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในเดือน เม.ย. โดยคาดผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี 2563 จากนี้ไปน่าจะพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ทิศทางขาขึ้นช่วงที่เหลือของปี ชอบ IVL ราคาเหมาะสม 32 บาท และ PTTGC ราคาเหมาะสม 45 บาท เป็นตัวเลือกที่ดีสุดยามนี้

ด้านบล.คิงส์ฟอร์ด วิเคราะห์หุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ให้น้ำหนักการลงทุนเท่าตลาด Neutral คาดแนวโน้มตลาดน้ำมันจะเริ่มกลับมาตึงตัวในเดือน ก.ค.ผลจากการประชุมโอเปกในวันเสาร์กลุ่มพันธมิตร OPEC+ มีมติขยายเวลาการปรับลดการผลิตที่ระดับ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ออกไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ค.จากกำหนดเดิมสิ้นสุดในเดือน มิ.ย.ก่อนจะทยอยลดการผลิตแบบขั้นบันได ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ทะยานขึ้นมาอยู่ที่ 42 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยคาดว่าราคาในช่วง ครึ่งปีหลัง จะยืนเหนือ 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ได้ เป็นบวกต่อกลุ่มต้นน้ำ PTTEP, PTT

ส่วนกลุ่มโรงกลั่นแม้ถูกกดดันจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแต่ต้องติดตามว่าค่าการกลั่นจะฟื้นหรือไม่หลังสายการบินในหลายประเทศกำลังจะกลับมาเปิดเส้นทางบินมากขึ้นเก็ง TOP, BCP, ESSO, SPRC, PTTGC ขณะที่หุ้นสายการบิน AAV, BA, AOT มีโอกาสปรับขึ้นตามต่างประเทศ

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองผลการประชุมของ OPEC+ ถือว่าเป็นไปตามกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้า ซึ่งมองว่าตลาดน้ำมันรับรู้ข่าวดังกล่าวไปแล้ว (วันศุกร์ปิดบวกราว 6%) อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันยังมีทิศทางที่ดีต่อไปในระยะสั้น หนุนจากปัจจัยบวก 1) ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งกว่าคาด 2) จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ ที่ลดลง 7 แท่นติดต่อเป็นสัปดาห์ที่ 13 และ ทำระดับต่ำสุดตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลปี 2530 เป็นสัปดาห์ที่ 5,

3) สถานการณ์พายุโซนร้อน Critobal ที่เตรียมขึ้นฝั่งสหรัฐฯ อาจกระทบต่อการผลิตน้ำมันบริเวณอ่าวเม็กซิโกน่า ทำให้เกิด Supply disruption ได้ (บริเวณอ่าวเม็กซิโก และชายฝั่งเป็นที่ตั้งของแท่นขุดเจาะน้ำมัน-โรงกลั่นที่สำคัญของสหรัฐฯ กำลังผลิต 15%-45% ตามลำดับ สัปดาห์ก่อนมีข่าวว่า BP, Equinor, Occidental เริ่มมีการอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางอ่าวเม็กซิโกแล้ว) และ 4) การประกาศเพิ่มราคาน้ำมัน OSP เป็น Premium ของซาอุฯ ถือว่าเพิ่มมากกว่าผลสำรวจของ Platts ที่คาดว่า Asia OSP จะเพิ่ม 2-5 เหรียษสหรัฐฯ/บาร์เรล และเป็นสถิติการปรับขึ้น MoM สูงสุด สะท้อนถึงการมุ่งมั่นปรับลดการผลิตอย่างจริงจัง เป็นบวกต่อน้ำมันดิบ

อย่างไรก็ตาม ภาพดังกล่าวจะเป็นลบต่อโรงกลั่นเพราะต้นทุนน้ำมัน Crude premium ไตรมาส 3/63 จะสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

บล.หยวนต้า มองการลดปริมาณผลิตน้ำมันของ OPEC+ ที่มากกว่าคาด และอุปสงค์ที่ฟื้นตัวได้เร็วจากการทยอยเปิดเมือง ทำให้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2563 ของหยวนต้าที่เฉลี่ย 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลเริ่มมี Upside risk (YTD เฉลี่ย 42.8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) โดยราคาน้ำมันที่สูงกว่าสมมติฐานจะเป็น Upside ต่อประมาณการกำไรหุ้น Oil play (PTTEP PTT PTTGC) สำหรับ PTTEP (Oil play รายหลัก) ราคาน้ำมันทุก 1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จะมีผลต่อกำไร 900 ล้านบาท

ทั้งนี้ บล.หยวนต้ายังคงสมมติฐานเดิมไว้ก่อน มองว่าราคาน้ำมันระยะกลาง-ยาวมี Upside เริ่มจำกัด