HoonSmart.com>>เก็งผ่อนคลายล็อกดาวน์เฟส 3 บล.ฟินันเซียไซรัสแนะเลือกหุ้นได้ดีจากการบริโภคฟื้นตัวและเปิดเศรษฐกิจมากขึ้น เสนอตัวเด็ดๆ ใน 10 ธุรกิจ กำลังซื้ออาหารแรงไม่ตก ต้องมี CPF,TFG,TVO,RBF,TKN แถมได้ปรับประมาณการกำไรปีนี้ด้วย
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซียไซรัส แนะนำว่า ในช่วงนี้ควรเลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการบริโภคและการเปิดเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคอุปโภคและสิ่งจำเป็นในการดำเนินชีวิต แม้ว่าบางธุรกิจจะเผชิญกับ New normal ของพฤติกรรมผู้บริโภค แต่ผู้ประกอบการจะปรับตัวได้ เห็นได้จากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 บริษัทจดทะเบียน(บจ.)โดยรวมมีกำไรหดตัว ขณะที่กลุ่มเกษตรและอาหารมีกำไรปกติขยายตัวสูงสุด 63% และการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวแข็งแกร่ง 3% ยังช่วยให้เศรษฐกิจหดตัวเพียง 1.8% ดีกว่าตลาดคาดจะหดตัว 4%
“แนะนำหุ้นให้เลือกลงทุนใน 10 หมวด เช่น หมวดอาหารและร้านอาหาร ได้แก่ CPF,TFG,TVO,RBF,TKN หมวดเกษตร เลือกหุ้น GFPT,STA,NER ธุรกิจสื่อนอกบ้านเน้น PLANB,VGI คาดจะเริ่มมีการกลับมาใช้เม็ดเงินโฆษณามากขึ้น และการต่อรองราคาขายโฆษณาลดน้อยลง “บล.ฟินันเซียไซรัสระบุ
ทั้งนี้ หากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย กลุ่มอาหารจะได้รับประโยชน์จากการกลับมาบริโภคมากขึ้นจนเข้าใกล้ระดับปกติอีกครั้ง แต่สินค้าที่เคยขายดีมากกว่าปกติในช่วงวิกฤติ เพราะผู้บริโภคกักตุน เช่น อาหารกระป๋อง อาจมีปริมาณขายลดลงกลับสู่ระดับปกติ ส่วนกลุ่มเนื้อสัตว์จะกลับมาสดใสอีกครั้ง คาดว่าจะเห็นราคาเนื้อสัตว์ หมู และไก่ ปรับขึ้น และธุรกิจอาหารต้นน้ำอย่างอาหารสัตว์ และวัตถุแต่งกลิ่นและสี น่าจะได้รับผลดีตามไปด้วย แต่ยังมีปัญหาเฉพาะอุตสาหกรรมอย่าง โรค ASF ที่ยังกระทบปริมาณการผลิตอยู่ ขณะที่ร้านอาหารน่าจะค่อยๆฟื้นตัว เมื่อผู้บริโภคเริ่มออกมาทานอาหารนอกบ้านอีกครั้งแม้จะมีมาตรการ Social distancing ก็ตาม
สำหรับกลุ่มเกษตร เชื่อว่ากลุ่ม Soft Commodities น่าจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง จากทั้งความต้องการที่กลับมาฟื้นตัว และการปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ เช่น ถั่วเหลือง ส่วนยางพาราอาจได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น นอกจากนี้ยังมี GFPT จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในช่วงปลายปี 2563 แม้โควิดอาจจะคลี่คลายได้ก่อน แต่บริษัทยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูสายการผลิตที่ถูกไฟไหม้เมื่อปลายปี2562 คาดแล้วเสร็จและกลับมาผลิตได้ในระดับปกติอีกครั้งคือต้นปี 2564 ส่วน STA, NER มีการเก็งกำไรตามราคายางพารา
บล.ฟินันเซียไซรัสระบุว่า กำไรบจ.ที่หดตัวในไตรมาสที่ 1/2563 ทำให้มีการปรับลดประมาณการกำไรต่อหุ้นทั้งปี อยู่ที่ 68 บาท ลดลงเป็น -21% จากเดิมคาด -13% ส่วนปี 2564 ฟื้น V-shape +23% หากอิง P/E 17 เท่าบนกำไรต่อหุ้นปีหน้า ดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 1,450 จุด
อย่างไรก็ตามในไตรมาส 1 มีบริษัทหลายแห่งมีกำไรเติบโตดี ทำให้มีการปรับประมาณการขึ้น ได้แก่ RBF, SAPPE, TKN, GLOBAL, WORK, PRM ในทางกลับกัน มีหลายแห่งเช่นกันที่แย่ลงมาก จึงถูกปรับประมาณการลงได้แก่ MINT, CENTEL, ERW, AAV, ADVANC, INTUCH, EKH, PSH, KCE, M, ZEN, BJC, MAJOR, EA, JWD
ปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการคาดการณ์ว่า จะมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์เฟส 3 ให้กับ โรงหนัง ร้านอาหาร สปา คาดมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มิ.ย. นี้