SCBS เปิด “EASY INVEST” บริหารความมั่นคั่ง ครบวงจร

บล.ไทยพาณิชย์ เปิดกลยุทธ์ 3 ปีโตก้าวกระโดด ให้บริการ “EASY INVEST” ทุ่มลงทุนด้านเทคโนโลยีและใช้คน บริหารความมั่งคั่งให้ลูกค้าในทุกการลงทุนครบวงจรบนจอเดียวกัน ส่งข้อมูล-คำแนะนำให้ถูกที่ ถูกคน ถูกเวลา นำเสนอผลิตภัณฑ์ตรงความต้องการทุกกลุ่ม

นายกัมพล จันทวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ (SCBS) แถลงข่าวเปิดบริการแพลตฟอร์มใหม่ด้านการลงทุนชื่อ ”EASY INVEST” รวมทุกผลิตภัณฑ์บนจอเดียว เป็นรายแรกของไทย เพื่อให้นักลงทุนเชื่อมต่อการลงทุนได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น กองทุนรวม ตราสารหนี้ อนุพันธ์ ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการพัฒนาโปรแกรมซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ (Algo Trading) และ Robo Advisor สามารถดูแลลูกค้าได้ใกล้ชิดและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความมั่งคั่งได้ดียิ่งขึ้น

กัมพล จันทวิบูลย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่า บริษัทจะใช้จุดเด่นเรื่อง เทคโนโลยีและคนที่มีความเชี่ยวชาญ ลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม และเปลี่ยนกระบวนการแนะนำใหม่ นอกจากมีมาร์เก็ตติงแล้ว งานวิจัยที่ส่งให้ลูกค้าแต่ละคนยังเลือกให้เหมาะกับพอร์ตลงทุน รวมถึงการมีที่ปรึกษาการลงทุนและงานวิจัยความมั่งคั่งสำหรับทุกการลงทุนด้วย

บริษัทคาดการณ์แนวโน้มตลาดเกี่ยวกับการลงทุนและการบริหารความมั่งคั่งยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก บริษัทจะจับนักลงทุนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะรายย่อยที่ยังใหม่สำหรับการลงทุน ให้มีโอกาสเข้าตลาด เริ่มจากการลงทุนกองทุนทุน เพิ่มพอร์ตให้โตก่อนเข้าลงทุนหุ้นในอนาคต รวมถึงกลุ่มผู้ที่มีรายได้มั่งคั่ง ส่วนลูกค้าที่ลงทุนอยู่แล้ว จะนำเทคโนโลยีมาช่วยบริหารพอร์ต เลือกผลิตภัณฑ์ จับจังหวะปรับพอร์ตของทุกผลิตภัณฑ์

“เรามีฐานข้อมูลของลูกค้าอยู่แล้ว ก็จะรู้ว่าแต่ละคนมีพฤติกรรมอย่างไร ก็จะให้บริการตรงจุดนั้น เช่น เมื่อมีข่าวเกี่ยวกับหุ้นตัวไหน ก็จะส่งตรงถึงลูกค้าที่มีหุ้นตัวนั้นในพอร์ต หรือ คลิ๊กดูหุ้นตัวไหนบ่อยก็จะส่งข้อมูลให้ตรงจุด เป็นการส่ง ถูกที่ ถูกคน ถูกเวลา ลูกค้ารู้ข้อมูลเร็ว มาร์เก็ตติ้งทำงานง่ายขึ้น คาดจะเริ่มให้บริการในครึ่งหลังของปีนี้ และบริษัทยังทำแอพให้ลูกค้านัดมาหารือกับที่ปรึกษาการลงทุนได้ด้วย รวมถึงมีห้องให้พูดคุย คาดจะเปิดตัวในเดือนต.ค.นี้” นายกำพลกล่าว

นอกจากนี้บริษัทยังจัดบริการ “โมเดล ซุปเปอร์มาร์เก็ต” ลูกค้าสามารถกำหนดเป้าหมายผลตอบแทนที่ต้องการ บริษัทร่วมกับฟินเทค จัดเมนูให้เลือกลงทุนได้ ระหว่างการลงทุนยังสามารถโทรมาสอบถามข้อมูลได้ตลอด และส่งผลตอบแทนให้ทราบทุกเดือน ทั้งนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 5 หมื่นบาทหรือ 1 แสนบาท หากน้อยเกินไป อาจจะกระจายความเสี่ยงไม่ดีเท่าที่ควร

สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนผ่านตราสารหนี้ และพันธบัตรรัฐบาล ก็สามารถบริหารความมั่งคั่งได้ โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เปิดบริการรับฝากบอนด์ ปรากฎว่าได้รับความสนใจมาก มีลูกค้านำมาฝากมูลค่า 5,000 ล้านบาท คาดว่าสิ้นไตรมาส 3/2561 จะเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาท บริษัทจะให้คำแนะนำว่าควรจะซื้อขายช่วงก่อนครบกำหนด หรือลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยเมื่อใด สามารถนำไปวางแผนการลงทุนได้ง่ายยิ่งขึ้น

ส่วนธุรกิจกองทุน ก็จะขยายประเภทสินค้าและฐานลูกค้ากว้างยิ่งขึ้น ปัจจุบันเป็นตัวแทนขายกองทุนไทยมากกว่า 1,000 กองทุน บริษัทกำลังขอใบอนุญาตทำธุรกิจเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อกองทุนต่างประเทศได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านกองทุนในประเทศ ส่วนการลงทุนในหุ้นและอีทีเอฟต่างประเทศก็จะสะดวกยิ่งขึ้น

“กลยุทธ์นี้เราจะใช้เวลาเร่งเครื่องการเติบโตภายใน 3 ปี ตั้งเป้าเป็นโบรกเกอร์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดติด 1 ใน 3 จากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 7 โดยเพิ่มจำนวนลูกค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน 1 แสนบัญชี เป็น 2 แสนบัญชี แต่ไม่แข่งขันเรื่องค่าคอมมิชชันที่มีแนวโน้มลดลง ปัจจุบันคิดคอมมิชชั่น 0.12% ของมูลค่าการซื้อขาย และไม่ลดจำนวนสาขาที่มีอยู่ 9 สาขาด้วย บริการพิเศษแบบนี้ จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่มีเงินไม่มากนัก เช่น 1 ล้านบาทก็มาเป็นลูกค้าใช้บริการจากเราได้ ซึ่งแต่ก่อนลูกค้าจะใช้บริการแบบนี้จะต้องมีเงินลงทุนถึง 10 ล้านบาท” นายกำพลกล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า SCBS มุ่งสู่การเป็น “บริษัทหลักทรัพย์ที่น่าชื่นชมที่สุด”การเน้นธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง เพิ่มผลิตภัณฑ์การลงทุนครบวงจร ช่วยให้สามารถสร้างรายได้แบบสมดุล จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ที่ 65% และธุรกิจอื่น 35% ให้อยู่ในระดับ 50% เท่ากัน และปีนี้ตั้งเป้า กำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท