PTL งวดปีกำไรลด 22% ยอดขายร่วงขาดทุน FX ปันผล 0.29 บาท

HoonSmart.com>> “โพลีเพล็กซ์” เปิดผลงานรอบปีบัญชี 62/63 กำไรสุทธิ 1,803 ล้านบาท ลด 22.43% จากงวดปีก่อน บาทแข็ง ยอดขายร่วง 4.72% บอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผล 0.29 บาท ขึ้น XD 7 ส.ค.63 จ่ายเงิน 27 ส.ค.

บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ PTL เปิดเผยผลดำเนินงานประจำปี 2562-3563 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2563 กำไรสุทธิ 1,803.08 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.00 บาท ลดลง 22.43% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2,324.39 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.58 บาท

บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 14,124.70 ล้านบาท ลดลง 7.46% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการขาย 14,050.85 ล้านบาท ลดลง 4.72% จากงวดปีก่อน มีรายได้อื่นๆ 73.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.29% โดยยอดขายลดลงส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการแข็งค่าของเงินบาทเทียบกับเงินยูโร ประมาณ 8% และเงินบาทต่อเหรียญสหรัฐฯ 4% ส่งผลกระทบต่อรายได้จากการส่งออกของกิจการในประเทศไทย รวมถึงยอดขายรวมของบริษัทในยุโรปและบริษัทย่อยในสหรัฐฯ

ราคาขายเฉลี่ยลดลงในปีนี้ เนื่องจากผลกระทบของราคาที่เกิดจากการลดลงอยางมากของราคาวัตถุดิบในการผลิตเมื่อเทียบกับปีก่อน ผลกระทบของราคาเฉลี่ยที่ลดลงและค่าเงินบาทที่แข็งค่าได้ชดเชยบางส่วนกับปริมาณที่เพิ่มขึ้นจากสายการผลิตแผ่นฟิลม์ BOPET ใหม่ ที่อินโดนีเซีย ซึ่งเริ่มดําเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนพ.ย.2562

ผลงานที่สูงขึ้นในธุรกิจหลักของบริษัท ได้แก่ ธุรกิจแผนฟิล์มบางและธุรกิจอื่น เช่น แผนฟิล์มหนาและแผ่นฟิล์มขึ้นรูปด้วยการเป่า (Blown film) ในประเทศไทย เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ตํ่าลง ส่งผลให้อัตรากำไรดีขึ้นและเนื่องจากปริมาณที่เพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์

กลยุทธ์การมุงเน้นที่ผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าสูง (HVA) อย่างต่อเนื่องช่วยให้บริษัทสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงและทนต่อความผันผวนของอุตสาหกรรมในลักษณะที่ดีขึ้น บริษัทยังลงทุนต่อเนื่องเพื่อปรับเปลี่ยนกลุ่มผลิตภัณฑ์พิเศษ

นอกจากนี้บริษัทมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้นในประเทศไทยส่วนใหญ่เกิดจากรายได้เกิดจากรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้นที่บริษัทย่อยที่สหรัฐฯ ซึ่งได้ชดเชยบางส่วนกับรายได้ดอกเบี้ยลดลงที่บริษัทย่อยประเทศตรุกีและอินโดนีเซียและรายได้จากการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนลดลงที่ประเทศไทย

บริษัทมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเกิดจากขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการแปลงค่าเงินกู้สกุลต่างประเทศ ในประเทศไทย สหรัฐอเมริกา และอินโดนีเซีย เนื่องจากการการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรเมื่อเทียบกับเหรียญสหรัฐฯอเมริกา เงินไทยบาท เงินรูเปียอินโดนีเซีย และเงินเหรียญสหรัฐฯต่อเงินบาท และเงินรูเปียอินโดนีเซีย

คณะกรรมการอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลประจําปี สําหรับรอบปีบัญชี 2562 – 2563 (1 เม.ย.2562-31 มี.ค.2563) ในอัตราหุ้นละ 0.65 บาท เป็นจํานวนเงิน 585 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว ในอัตราหุ้นละ 0.36 บาท เป็นเงิน 324 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2562 และจะจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้าย ในอัตราหุ้นละ 0.29 บาท เป็นเงิน 261 ล้านบาท และนําเสนอต่อผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาและอนุมัติ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 10 ส.ค.2563 และจ่ายเงิน 27 ส.ค.2563