คลุกวงในหุ้น
โดย… สุนันท์ ศรีจันทรา
ไม่กี่เดือนก่อน เพิ่งเห็นดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ตีฝ่าทะลุระดับ 1,850 จุดไปหยกๆ แต่วันนี้ดัชนีฯ ถอยลงมายืนแถวระดับ 1,600 ต้นๆ แล้ว เพราะข่าวร้ายที่กระหน่ำใส่ จนนักลงทุนถอยตั้งหลักกันไม่ทัน
ดัชนีฯ ติดลบไปแล้วกว่า 200 จุด เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดเมื่อต้นปี พร้อมกับความมั่นคั่งของตลาดหลักทรัพย์ที่หายไปกว่า 1 ล้านบ้านบาท โดยคำนวณจากมูลค่าหลักทรัพย์ตลาดรวม
นักลงทุนต่างชาติขายกระหน่ำ ยอดขายสุทธิสะสมจากต้นปีพุ่งขึ้น 168,264.42 ล้านบาท โดยนักลงทุนภายในประเทศเป็นผู้รับเละ โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยที่ช้อนหักคากระดานหุ้น
เพียงช่วง 2 วันทำการ ระหว่างวันที่ 18-19 มิถุนายนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นกลายเป็นวิกฤต ดัชนีฯ ร่วงแรงติดต่อ โดยลงไปกว่า 65 จุด เพราะนักลงทุนวิตกกังวลผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน จึงพากันเทขายหุ้น ซึ่งตลาดหุ้นเพื่อนบ้านย่านเอเชียตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน
แต่ตลาดหุ้นไทยถูกซ้ำเติมด้วยปัจจัยแทรกซ้อนหลายด้าน นอกจากถูกต่างชาติทุบขายไม่เลี้ยงแล้ว ยังอาจมีรายการขายในลักษณะชอร์ตเซลโดยไม่มีใบหุ้นของต่างชาติด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล รวมทั้งยังมีรายการขายพิเศษจากพอร์ตโบรกเกอร์ด้วย
เพราะนักลงทุนที่เล่นดิลิเวทีฟวอร์แรนต์ หรือ DW โดยเล่นขาขึ้นหรือพุทออพชั่น อาจขาย DW หุ้นหลายตัวออก ทำให้โบรกเกอร์ต้องขายหุ้นตัวแม่ที่ซื้อไว้ป้องกันความเสี่ยง DW ตามออกมา หรือนักลงทุนอาจขายอนุพันธ์ซิงเกิ้ล สต๊อคออก ทำให้โบรกเกอร์ที่ซื้อหุ้นสามัญป้องกันความเสี่ยงซิงเกิ้ลสต๊อค ต้องขายหุ้นออกตาม จึงเป็นการซ้ำเติมตลาดให้ทรุดหนัก
เป้าหมายดัชนีฯ 1,900 จุด หรือ 2,000 จุด ยามนี้ไม่มีใครพูดถึงแล้ว แต่ทุกคนกำลังประเมินถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นปัจจุบัน ซึ่งไม่อาจประเมินได้ว่า การปรับฐานครั้งนี้จะยืดเยื้อยาวนานขนาดไหน และจุดต่ำสุดของดัชนีฯ จะอยู่ที่ระดับใด
1,600 จุดจะรับอยู่ไหม หรือจะต้องกลับไปตั้งต้นใหม่ที่ระดับ 1,570 จุด เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2560 ก่อนตลาดหุ้นจะกลับมาบูมรอบใหม่
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่ ไม่มีคำแนะนำให้ซื้อหุ้น นอกจากการเฝ้าสังเกตการณ์ไปก่อน เพราะเชื่อว่า ในระยะสั้น หุ้นคงไม่ฟื้น และไม่มีสัญญาณบ่งชี้การดีดกลับอีกด้วย นักลงทุนจึงต้องรักษาเนื้อรักษาตัวไปก่อน จนกว่าข่าวร้ายจะจางลง หรือจนกว่าสถานการณ์จะนิ่ง
ข่าวร้ายกำลังปกคลุมตลาดหุ้น จนกลายเป็นภาวะฝุ่นตลบ ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก และไม่อาจประเมินว่า บรรยากาศการลงทุนที่เลวร้ายจะจบลงเมื่อใด
รู้กันแต่ว่า การลงทุนช่วงนี้มีความเสี่ยงสูง ดัชนีฯ มีแนวโน้มที่จะทรุดตัวลงต่อไป และนักลงทุนควรพยายามอยู่ห่างตลาดหุ้น อย่ารีบร้อนช้อนหุ้น เพราะมีโอกาสเจ็บตัวมากกว่าจะเป็นโอกาสทำกำไร
ราคาหุ้นส่วนใหญ่ ยั่วยวนให้ซื้อ แต่นักลงทุนที่ผลีผลามเข้ามาซื้อ ต้องแบกต้นทุน ติดยอดดอยกันเป็นแถว และเริ่มจะถอดใจกันแล้ว เพราะขืนสวนตลาดหุ้นขาลง มีแต่หมดกับหมดจึงต้องพยายามตุนเงินสดในมือมากกว่าซื้อหุ้นจนเต็มพอร์ต
การปรับฐานใหญ่ของตลาดหุ้น น่ากลัวทุกรอบ เพราะไม่มีใครรู้ว่าจุดต่ำสุดอยู่ตรงไหน การปรับฐานใหญ่รอบนี้ก็เช่นเดียวกัน ไม่มีใครคลำหาจุดต่ำสุดเจอ ได้แต่ประเมินกันว่า จุดปิดที่ระดับ 1,639 จุด ยังไม่น่าจะใช่จุดต่ำสุดของรอบ ซึ่งหมายถึงดัชนีฯ มีโอกาสทรุดลงต่อ
ลงมาม้วนเดียวกว่า 200 จุดแล้ว แต่ดัชนีฯ ยังไม่ส่อแววว่าจะหยุดลง การปรับฐานรอบนี้จึงน่ากลัวมากๆ และนักลงทุนต้องระวังตัวมากๆ
เพราะกำไรที่ได้มากำลังคืนกลับไป และหลายคน “เข้าเนื้อ” แล้ว เพราะขาลงรอบนี้ ซึ่งต้องย้ำว่า น่ากลัวจริงๆ