ดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 300 จุด กังวลวัคซีนต้านไวรัส

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 300 จุด กังวลวัคซีนต้านไวรัส เศรษฐกิจถดถอย ด้านตลาดหุ้นยุโรปลบ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 19พฤษภาคม 2563 ที่ 24,206.86 จุด ร่วงลง 390.51 จุด หรือ 1.59% จากความกังวลของนักลงทุนต่อวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจาก Stat News รายงานว่า การทดลองวัคซีนระยะแรกของบริษัท Moderna ไม่มีข้อมูลสำคัญพอที่จะประเมินประสิทธิภาพในการต้านไวรัส

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,922.94 จุด ลดลง 30.97 จุด,-1.05%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,234.83 จุด เพิ่มขึ้น 9,185.10 จุด ลดลง 49.73 จุด,-0.54%

นอกจากนี้นักลงทุนยังวิตกต่อการถดถอยทางเศรษฐกิจเนื่องจากผลกระทบของการระบาดไวรัสและความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการผ่อนคลายล็อกดาวน์

State News รายงานว่า Moderna ให้ข้อมูลแค่ว่าร่างกายอาสาสมัคร 8 ราย 2 กลุ่มที่ได้รับวัคซีนในปริมาณกลุ่มละ25 ไมโครกรัมและ 100 ไมโครกรัม ผลิตแอนตีบอดีซึ่งสามารถกำจัดเชื้อไวรัสในผู้ป่วยโควิด-19 แต่ยังขาดผลการทดลองของอีก 37 ราย และไม่มีข้อมูลอายุของทั้ง 8 ราย

หุ้น Moderna ลดลง 10.41%

นักลงทุนหันไปสนใจการชี้แจงมาตรการของเฟดและของรัฐบาลในเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลาง (เฟด) และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลัง ต่อสภาคองเกรสที่ตั้งคำถามว่า เหตุใดยังไม่มีการใช้จ่ายเงินเยียวยาวงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ที่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสเพื่อเยียวยาภาคธุรกิจและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะเปิดตัวโครงการเงินกู้ภายในปลายเดือนนี้

ด้านนายเอริก โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตันคาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะแตะระดับสูงสุดราว 20% และเตือนว่าการเปิดเศรษฐกิจขณะนี้อาจจะเร็วเกินไป อีกทั้งความต้องการของผู้บริโภคคือประเด็นของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกันนักลงทุนยังจับตาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ขู่ว่าจะตัดเงินช่วยเหลือที่ให้แก่องค์การอนามัยโลกอย่างถาวร หากไม่ปรับปรุงการทำงาน ซึ่งอาจจะมีผลต่อระบบสาธารณสุขของโลก

สำนักงานงบประมาณของสภาคองเกรสคาดว่าจีดีพีไตรมาสสองอาจจะร่วงลง 38% และรัฐบาลจะขาดดุลงบประมาณ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2020

กระทรวงพาณิชย์เผยว่า การเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนเมษายนลดลง 30.2% มาที่ระดับ 891,000 ยูนิต จาก 1.276 ล้านยูนิตในเดือนมีนาคม ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2015 ส่วนการอนุญาตก่อสร้างบ้านลดลง 20.8% สู่ระดับ 1.074 ล้านยูนิต

หุ้นวอลมาร์ท ลดลง 2.22% แม้มีกำไรในไตรมาส 1 หุ้นโคห์ลส์ คอร์ป ลดลง 7.65% จากผลขาดทุน ในไตรมาส 1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ หุ้นโฮม ดีโปท์ อิงค์ ลดลง 2.67% จากกำไรไตรมาส 1 ที่ต่ำกว่านักวิเคราะห์

หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 1.7% หลังเปิดตัว แพล็ตฟอร์ม Facebook Shops ที่จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้น โดยจะเริ่มใช้งานในสหรัฐในช่วงฤดูร้อนนี้

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มรถยนต์ที่ปรับตัวลดลง 1% หลังจากยอดรถจดทะเบียนใหม่ในยุโรเดือนเมษายนลดลง 76.3% ขณะเดียวกันนักลงทุนเกาะติดการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,002.23 จุด ลดลง 46.36 จุด, -0.77%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 339.49 จุด ลดลง 2.1 จุด, -0.61%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,458.16 จุด ลดลง 40.18 จุด, -0.89%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,075.29 จุด เพิ่มขึ้น 16.42 จุด, +0.15%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 32.50 ดอลลาร์/บาร์เรลดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 34.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล