HoonSmart.com>> บลจ.กสิกรไทย จ่ายปันผลกองทุนหุ้นสหรัฐฯ – ยุโรป กว่า 130 ล้านบาท ลูกค้ารอรับพร้อมกัน 14 พ.ค.นี้ มองโควิด-19 ยังกระทบภาพรวมการลงทุน แนะรอดูสถานการณ์
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย จ่ายเงินปันผล กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (K-USA-A(D)) สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2562 – 30 เม.ย.2563 และ กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน หุ้นทุน (K-EUROPE) สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2562 – 30 เม.ย.2563 โดยทั้ง 2 กองทุนจ่ายปันผลในอัตรา 0.25 บาทต่อหน่วย และมีกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 พ.ค.2563 รวมมูลค่า 134.35 ล้านบาท
นายนาวิน กล่าวต่อไปว่า นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน K-USA-A(D) เมื่อปี 2555 กองทุนมีการจ่ายปันผลมาอย่างต่อเนื่องทุกปี รวมแล้วทั้งสิ้น 28 ครั้ง เป็นเงิน 7.55 บาทต่อหน่วย และมีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งอยู่ที่ 14.56% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานได้ซึ่งอยู่ที่ 11.46% ต่อปี โดยในรอบผลการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา กองทุนมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 6.20% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย.2563)
ทั้งนี้ ภาพรวมการลงทุนในสหรัฐฯ ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ธนาคารกลางของสหรัฐฯ รวมถึงภาครัฐต่างเร่งออกมาตรการเพื่อเยียวยา โดยคาดการณ์ GDP ของสหรัฐฯ ในปีนี้น่าจะหดตัวอยู่ในช่วง -3% ถึง -6% อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนยังต้องติดตามความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และมาตรการการเงินการคลังที่ออกมาว่าจะช่วยลดผลกระทบให้กับภาคธุรกิจได้มากน้อยเพียงใด
สำหรับกองทุน K-EUROPE มีการจ่ายปันผลนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อปี 2556 รวมแล้วทั้งสิ้น 20 ครั้ง เป็นเงิน 4.50 บาทต่อหน่วย และมีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งอยู่ที่ 6.87% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานได้ซึ่งอยู่ที่ 6.57% ต่อปี โดยในรอบผลการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา กองทุนมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 8.00% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย.2563)
ด้านภาพรวมการลงทุนในยุโรปยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 เช่นกัน แม้จะมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงหลายประเทศในยุโรปเตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ แต่การหยุดชะงักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาทำให้ภาพรวมยังดูเปราะบางอยู่มาก โดยคาดการณ์ GDP ในปีนี้น่าจะติดลบนำโดยอิตาลี อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนยังต้องติดตามการทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของแต่ละประเทศในภูมิภาค ซึ่งจะมีผลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะถัดไป
นายนาวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน K-USA-A(D) และ K-EUROPE สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้ดีในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ได้รับการจัดอันดับ Overall Morningstar Rating 4 ดาว (ที่มา: Morningstar ณ 31 มี.ค.2563) ซึ่งผู้ลงทุนสามารถพิจารณาเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย แนะนำให้ผู้ลงทุนเน้นกระจายการลงทุน และกำหนดสัดส่วนการลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้ โดยลงทุนในกองทุน K-USA-A(D) และ K-EUROPE ประมาณ 5% – 10% ของพอร์ต อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ที่ภาวะตลาดยังคงมีความผันผวน ผู้ลงทุนจึงควรต้องรอประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าลงทุน
ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ
