GPSC กำไร 1,579 ลบ. พุ่ง 68% รับรู้ GLOW เต็มไตรมาส 1/63

HoonSmart.com>> “โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่” กำไรไตรมาส 1/63 จำนวน 1,579 ล้านบาท เติบโต 68% จากปีก่อน รับรู้รายได้โรงไฟฟ้า GLOW เต็มปี หนุนรายได้ดำเนินงาน 1.83 หมื่นล้านบาท พุ่ง 102% ด้านบล.เอเซียพลัส แนะ ซื้อ ราคาเหมาะสม 91 บาท คาดกำไรปี 63 เติบโตโดดสุดในกลุ่มโรงไฟฟ้า ด้านราคาหุ้นวิ่งเกือบ 20% ช่วง 1 เดือน แนะรอราคาปรับฐาน

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 1,579.89 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.56 บาท เพิ่มขึ้น 68% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 942.17 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.63 บาท

กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการรับรู้ ผลประกอบการจาก GLOW เต็มไตรมาส เมื่อเทียบไตรมาส 1 ปี 2562 มีการรับรู้กำไรจาก GLOW เพียง 18 วัน ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงานมูลค่า 18,308 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,241 ล้านบาท หรือ 102% จากไตรมาสที่ 1 ปี 2562

อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ ในไตรมาส 1 ปี 2563 ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยมีสาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายภาษี เงินได้รอตัดบัญชีที่เพิ่มขึ้นจากการปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงาน ทางการเงิน เรื่องสัญญาเช่า (TFRS16)

ในปี 2563 บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถรับรู้มูลค่า Synergy จากการควบรวมกิจการได้ประมาณ 400 – 500 ล้านบาท โดยกิจกรรมหลกั มาจากการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าและโครงข่ายร่วมกัน และการบริหารจัดการสัญญาซ่อมบำรุงระยะยาว (Long Term Service Agreement : LTSA) ของส่วนงานซ่อมบำรุงรักษาให้เกิดประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพของส่วนงานจัดซื้อจัดจ้าง โดยการบริหารต้นทุนและลดต้นทุนสินค้าคงคลัง ตลอดจนการจัดซื้อร่วมกันให้เกิดส่วนลดจากปริมาณที่มากขึ้น (Economy of scale) รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินการประกันภัย การบริหารเงินทุนหมุนเวียนและการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารงานองค์กร ทั้งนี้ ทางบริษทฯ ได้มีการประเมินมูลค่า Synergy เบื้องต้นที่จะเกิดขึ้นในช่วง พ.ศ. 2562 – 2567 โดยคาดว่ามูลค่า Synergy จะค่อย ๆ ปรับตวัเพิ่มขึ้นจนสามารถรับรู้มูลค่าที่ประมาณ 1,600ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2567

บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 91 บาท ไตรมาส 1/2563 กำไรสุทธิดีกว่าคาดเล็กน้อย เป็นผลจากกำไรปกติที่เติบโต 39.5% จากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 1.98 พันล้านบาท

นอกจากนี้คาดกำไรปกติไตรมาส 2 ปี ทรงตัวจากไตรมาสก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวคาดจะทำให้ลูกค้าอุตฯ ซื้อไฟน้อยลงซึ่งยังอยู่ในประมาณการ เนื่องจากลูกค้าอุตฯหลักของ GPSC คือกลุ่มปิโตรเคมียังมีการใช้ไฟตามปกติ อีกทั้งคาดจะถูกชดเชยได้จากฤดูร้อนในไทย ทำให้ IPP มีโอกาสเรียกรับซื้อไฟมากขึ้น อีกทั้งต้นทุนพลังงานคาดจะลดลงต่อ

บล.เอเซีย พลัสคงประมาณการกำไรปกติปี 2563 ไว้ที่ 7.4 พันล้านบาท +52.1% เมื่อเทียบไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หนุนจากการรับรู้ GLOW เต็มปี และโครงการที่ COD ปี 2562 เต็มปี (XPCL, CUP4, CUP3 Expansion และ Nam Lik) ถึงแม้ว่าทิศทางกำไรครึ่งหลังของปี 2563 จะอ่อนตัวกว่าครึ่งปีแรกปี 2563 อยู่บ้าง แต่เชื่อว่ายังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากการปิดซ่อมโรงไฟฟ้าหลายโรง แต่คาดจะถูกชดเชยได้จากราคาก๊าซฯที่คาดจะลดลงชัดเจนในครึ่งปีหลังปี 2563 ตาม lag time ราคาน้ำมันดิบ

อย่างไรก็ตามราคาหุ้น 1 เดือนที่ผ่านมาขึ้นเกือบ 20% อย่างรวดเร็วและมีนัยฯ จึงเชื่อว่าราคาหุ้นมีโอกาสที่จะปรับฐานแล้วค่อยหาจังหวะเข้าลงทุนระยะยาวเมื่อราคาอ่อนตัว เนื่องจากทิศทางกำไรในครึ่งปีหลังนี้อ่อนตัวกว่าครึ่งปีแรก ถึงแม้ว่าทั้งปี 2563 กำไรจะเติบโตโดดสุดในกลุ่มโรงไฟฟ้าหลักก็ตาม