CPF รับรางวัลความยั่งยืนปี 2562 ระดับเหรียญทองของเอเซีย

HoonSmart.com>>ซีพีเอฟ ได้รับรางวัลรายงานความยั่งยืนปี 2562 ระดับเหรียญทองของเอเซีย  ระดับเหรียญทอง 2 รางวัล  และรางวัลเหรียญเงิน การรายงานเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและการลดผลกระทบ ตอกย้ำความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

วุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์

นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกที่บริษัทฯ ส่งรายงานความยั่งยืนเข้าชิงรางวัลและเป็นเกียรติกับบริษัทฯ อย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งมั่นผลิตอาหารที่ดีต่อสุขภาพ  เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับผู้บริโภคทั่วโลก ขณะเดียวยังทำงานร่วมกับคู่ค้าธุรกิจและชุมชนในการขับเคลื่อนสังคมให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

“ซีพีเอฟ ขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวทางการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อเนื่องควบคู่กับคู่ค้าธุรกิจ ภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 เสาหลักสู่ความยั่งยืน คือ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตนและดินน้ำป่า คงอยู่ ตลอดจนต้องการนำเสนอผลการปฏิบัติงานของพนักงานทุกคนในรายงานความยั่งยืนอย่างเหมาะสม โปรงใส ด้วยความรับผิดชอบ” นายวุฒิชัย กล่าวและเสริมว่า ความสำเร็จด้านความยั่งยืนของบริษัทฯยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) 11 เป้าหมาย จากทั้งหมด 17 เป้าหมาย

 

 

รายงานความยั่งยืนปี 2562 ของ ซีพีเอฟ ได้รับรางวัล 3 รางวัล ได้แก่ Gold class (ที่ 1) ประเภท Asia’s Best Supply Chain Reporting ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับการรายงานและสื่อสารด้านห่วงโซ่อุปทานอย่างโปร่งใสและรายงานการดำเนินงานเพื่อลดความเสี่ยงภายในห่วงโซอุปทานอย่างดีเยี่ยม
รางวัล Gold class (ที่ 1) ประเภท Asia’s Best Community Reporting ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับการรายงานและสื่อสารด้านการดำเนินงานกับชุมชน สามารถรายงานผลกระทบต่อชุมชนและผลจากการดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างดีเยี่ยม และรางวัล Silver class (ที่ 2) ประเภท Asia’s Best Environmental Reporting เป็นรางวัลสำหรับการรายงานและสื่อสารด้านสิ่งแวดล้อมที่มีเป้าหมายและผลการดำเนินงานที่ชัดเจน รวมถึงสามารถรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของบริษัทในประเด็นที่สำคัญได้อย่างดี

ซีพีเอฟ เป็น 1 ใน 461 ฉบับ รายงานความยั่งยืนจาก 16 ประเทศในเอเซีย ที่มีการส่งเข้าประกวดผลงาน และ ASRA ได้คัดเลือกผู้เข้ารอบเหลือ 80 บริษัท จาก 13 ประเทศ เพื่อเข้ารับรางวัลใน 19 สาขา ในปีนี้มีเหตุการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้มีการเลื่อนการประกาศผลออกมาในรูปแบบของการถ่ายทอดสดแบบ Live Broadcasting จากประเทศสิงคโปร์ ในงานนี้ มีนักธุรกิจชั้นนำกว่า 200 คน และผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนจาก 15 ประเทศ ร่วมในรับชมการถ่ายทอดครั้งนี้