หุ้นพลังงานขึ้นสวนน้ำมันลง ไทยออยล์คาดเบรนท์ 20-25 ดอลล์สัปดาห์นี้

HoonSmart.com>>หุ้นพลังงานต้นน้ำปรับตัวขึ้น นำโดย PTT-PTTEP   สวนทางราคาน้ำมันดิบลงต่อเนื่อง  บริษัทไทยออยล์คาดแนวโน้มสัปดาห์นี้ขาลง  WTI  แกว่งในกรอบ 15-20 ดอลลาร์  เบรนท์เคลื่อนไหว 20-25 ดอลลาร์ ความต้องการใช้ลดลง  สต๊อกสูง ใกล้จะล้นถังรองรับได้อีก 2 สัปดาห์ เตรียมระบายออกมา 

นักลงทุนยังคงสนใจซื้อขายหุ้นพลังงาน ส่งผลให้หุ้น PTT  ปิดที่ 34.50 บาท บวก 0.50 บาทหรือ 1.47% และ PTTEP เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 1.97% ปิดที่ 77.75 บาท สำหรับภาคเช้าวันที่ 27 เม.ย. 2563   แม้ว่าราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส เวลาประมาณ 14.07 น. ตามเวลาประเทศไทย อยู่ที่ 14.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง -2.44 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ -14.40% ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 20.14ดอลลาร์/บาร์เรล -1.30 ดอลลาร์/บาร์เรล -6.06%

บริษัทไทยออยล์คาดแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ วันที่ 27 เม.ย. – 1 พ.ค. 2563 ว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส จะเคลื่อนไหวในกรอบ 15-20 ดอลลาร์ น้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 20-25 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำ เนื่องจากตลาดยังกังวลกับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังความต้องการใช้น้ำมันตลาดโลกชะลอตัวลง แต่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตรหรือกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ประกาศพร้อมร่วมเดินหน้าลดกำลังการผลิต โดยจะเริ่มขึ้นในเดือน พ.ค. 63 ตามข้อตกลงในการประชุมฉุกเฉินในช่วง 12 เม.ย. ที่ผ่านมา ทั้งยังเตรียมประชุมฉุกเฉินอีกครั้งในช่วงต้นเดือน พ.ค. อีกด้วย นอกจากนั้นตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐฯ ประกาศแนวทางทยอยเปิดเศรษฐกิจเพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะสหรัฐ ส่งผลให้ล่าสุดปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 เม.ย. 2563 ณ จุดส่งมอบ Cushing, Oklahoma ปรับตัวสู่ระดับกว่า 61 ล้านบาร์เรล ซึ่งคิดเป็น  80% ของถังเก็บสำรองทั้งหมด ตลาดคาดว่าหากยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง อาจรองรับได้อีกเพียง 2 สัปดาห์ อาจทำให้มีการเทขายน้ำมันดิบออก ส่งผลกดดันราคาน้ำมัน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศที่จะคลายมาตรการล็อคดาวน์ในหลายรัฐ แต่จะดำเนินการเป็นระยะขึ้นอยู่กับผู้ว่าการรัฐจะตัดสินใจ หากสหรัฐฯ กลับสู่ภาวะปกติ คาดว่าจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น  ส่วนการผลิตน้ำมันดิบจากผู้ผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) ในสหรัฐฯ ที่มีต้นทุนสูงมีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง โดย Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ ลดลงอีก 66 แท่นลงสู่ระดับ 438 แท่น ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มที่ปรับลดลงอีกหากราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำต่อไป

หลังการประชุมฉุกเฉินของกลุ่มโอเปกพลัสในช่วงกลางเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา โดยซาอุดิอาระเบียและรัสเซียประกาศพร้อมเดินหน้าลดกำลังการผลิตลงตามข้อตกลง เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันและบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งการปรับลดจะเริ่มต้นในเดือน พ.ค. ที่ปริมาณรวม 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้กลุ่มโอเปกยังพร้อมที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติม เช่น การปรับลดกำลังผลิตลงอีก เพื่อรักษาตลาดน้ำมันร่วมกับประเทศพันธมิตร

สถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (20-24 เม.ย.63)  ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเมื่อวันจันทร์ที่ 20 เม.ย. ลดลงไปอยู่ที่ระดับ -37.63 ดอลลาร์สหรัฐฯ นับว่าลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี  เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาเดือน พ.ค. ก่อนที่จะถึงวันสิ้นสุดสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องรับซื้อน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสหากสัญญาสิ้นสุดลงในวันที่ 21 เม.ย. ส่งผลให้ราคาโดยรวมปรับลดลง 1.33 ดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ที่ 16.94 ดอลลาร์สหรัฐฯ  เช่นเดียวกับ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ลดลง 6.64 ดอลลาร์สหรัฐฯ  อยู่ที่ 21.44 ดอลลาร์ราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 18.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ  โดยราคาน้ำมันดิบยังคงถูกกดดันจากความต้องการใช้น้ำมันที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังหลายประเทศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ตลาดยังคงกังวลต่ออุปทานส่วนเกิน เนื่องจากการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสน้อยกว่าที่ตลาดคาด