ทองร่วงรอซื้อ 1.7 หมื่นบาท หยุดเก็งกำไรหุ้น

ราคาสินทรัพย์โลกปักหัวลง ‘ทอง’ จิตติคาด 1,300 ดอลลาร์รับไหว อ็มทีเอสมองขาลง พบกัน 1,180 ดอลลาร์ หรือ 17,000 บาท ส่วนหุ้นต่างชาติยังไม่หยุดทิ้ง เอเซียพลัสแนะซื้อบริษัทชั้นดีเข้าพอร์ต

สงครามการค้าเดือด จีนตอบโต้เก็บภาษีสหรัฐอเมริกา ธนาคารสหรัฐฯ(เฟด) ส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดการณ์ ทำให้ราคาสินทรัพย์ทั่วโลกปรับตัวลง ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 84.83 จุด ปิดที่ 25,090.48 จุด สัญญาน้ำมันลงหนัก ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ร่วงลง 29.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ 1,278.50 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน

ราคาทองคำล่วงหน้าที่ลดลง ส่งผลให้สมาคมค้าทองคำประกาศลดราคาในประเทศลง บาทละ 150 บาท เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2561 ทองคำแท่งรับซื้อที่ 19,700 บาท ขายออก 19,800 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อ 19,344.16 บาท และขายออก 20,300 บาท

นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ กล่าวว่า เวลาเกิดสงครามหรือสงครามการค้า เงินมักจะไหลเข้าไปพักในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่สงครามระหว่างสหรัฐกับจีนครั้งนี้ ราคาทองคำกลับร่วงลงผิดปกติ หากหลุดต่ำกว่าแนวรับสำคัญคือ 1.250 ดอลลาร์สหรัฐ ก็จะมีโอกาสที่จะลงไปทดสอบระดับต่ำสุดรอบนี้ บริเวณ 1,180 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกิดขึ้นปลายปีที่ผ่านมา ราคาทองคำในประเทศซื้อขายที่ 17,000 บาท แต่รอบนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่เท่าไร ตัวแปรอยู่ที่ค่าเงินบาท

“ไม่แนะนำให้นักลงทุนเข้าไปซื้อทอง คาดว่าราคาคงจะปรับตัวลงอีกประมาณ 2 สัปดาห์นี้ ระหว่างนี้ ราคาสินทรัพย์ต่างๆที่ปรับตัวลง จะมีการขายออกเพื่อหาเงินไปวางหลักประกันเพิ่ม สำหรับ คอลล์ มาร์จิ้น”นายณัฐพงศ์

ขณะที่ นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ คาดว่า ราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะยังทรงตัวอยู่ในช่วง 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังตลาดตอบรับเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดและธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)

ด้านการลงทุนหุ้นไทย นักลงทุนต่างชาติขายออกมาหนัก 2 วัน รวม1.8 หมื่นล้านบาท รวมถึงการขายตราสารหนี้ด้วย หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงค่อนข้างมาก ปิดตลาดที่ระดับ 32.41 บาทต่อดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐสูงกว่าของไทย

แนวโน้มหุ้นในสัปดาห์นี้(18-22 มิ.ย.) บล.เอเซียพลัส แนะนำว่า การปรับตัวลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์จนต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้ภาพการเก็งกําไรระยะสั้นมีความเสี่ยงสูงขึ้น แต่หากมองในเชิงของการลงทุนระยะยาว ถือเป็นโอกาสในการทยอยซื้อหุ้นพื้นฐานดี สัปดาห์นี้คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,700-1,730 จุด เลือก BBL ให้มูลค่าเหมาะสม 220 บาท และ BANPU มูลค่า 25.60 บาท