HoonSmart.com>> บลจ.ธนชาต เปิดขายกองทุน T-ES-EQDSSFX ลดหย่อนภาษีหากลงทุนตามเงื่อนไข ชูกลุยุทธ์บริหารกองทุนผสมผสานหุ้นที่มีกระแสเงินสดที่ดีกับหุ้นที่มีความสามารถในการเติบโตในแต่ละช่วงเวลา ชี้จังหวะลงทุนหุ้นไทย ราคาร่วงช่วงวิกฤตไวรัส COVID-19 เปิดขายครั้งแรก 1-8 เม.ย. นี้
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่าจากมติคณะคณะรัฐมนตรีในวันที่ 10 มีนาคม 2563 ที่มีมติเห็นชอบเรื่องมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัส COVID-19 ต่อเศรษฐกิจไทย โดยมีมาตรการสร้างความเชื่อมั่นในระบบตลาดทุน โดยการอนุมัติให้บริษัทจัดการกองทุน สามารถออกองทุนรวมเพื่อการออมแบบพิเศษ (Super Savings Fund Extra หรือ SSFX) ที่ระบุว่าต้องมีนโยบายการลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งเป็นวงเงินที่แยกจากวงเงินหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน SSF กรณีปกติ
บลจ.ธนชาต จึงได้ออกกองทุนเปิดธนชาต อีสท์สปริง หุ้นทุนปันผล เพื่อการออมพิเศษ หรือ T-ES-EQDSSFX ที่มีกลยุทธ์เน้นลงทุนในหุ้นใหญ่ (SET 100) ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ราคาไม่แพงนัก และมีโอกาสได้รับเงินปันผลดี อย่างหุ้นกลุ่มบริโภคในประเทศ กลุ่มพลังงาน และโรงไฟฟ้า ที่จะเห็นได้ว่าแม้ได้รับผลกระทบจากไวรัส COVID-19 แต่ยังคงสามารถปรับตัวให้สอดรับกับภาวะความผันผวนในตลาดได้
นอกจากนั้นยังมีการผสมผสานกับหุ้นไทยเติบโตสูงอย่างกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หรือหุ้นขนาดกลาง ในระยะถัดไป เมื่อตลาดเริ่มผ่านเข้าสู่ช่วงเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ โดยผู้จัดการกองทุนมีการปรับพอร์ตการลงทุนแบบ Active management ให้สอดคล้องกับสภาวะการลงทุนในแต่ละขณะ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว เหมาะกับการนำไปวางแผนเกษียณในอนาคต ประกอบกับยังได้สิทธิลดหย่อนภาษีพิเศษตามกฎหมายเพิ่มอีก 200,000 เพียงแต่ต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี เท่านั้น
“ภาพรวมดัชนีหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปี ยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสที่เกิดขึ้นไปทั่วโลก ทำให้เกิดการแกว่งตัวและผันผวนสูงมากในระยะที่ผ่านมา โดยล่าสุดแม้ดัชนีปรับขึ้นมาอยู่ที่ 1,134.32 จุด (ที่มา ตลาดหลักทรัพย์ฯ, ณ วันที่ 2 เม.ย. 2563)จากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่นักลงทุนหลายท่านยังมีความกังวลในการลงทุนในหุ้นไทยในระยะนี้ แต่บลจ.ธนชาต มองว่า หุ้นไทยยังคงน่าลงทุนในระยะยาว เพราะราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยลบจากวิกฤตไปมากแล้ว แม้ในระยะสั้นอาจมีความผันผวน แต่จะสามารถฟื้นตัวได้ในที่สุด และถือได้ว่าเป็นจังหวะที่น่าลงทุนหุ้นไทย ซึ่งถือได้ว่าตอนนี้หุ้นไทยอยู่ในช่วงที่ราคาถูก ราคา P/E อยู่ที่ 15 เท่า (ที่มา Bloomberg, ณ วันที่ 2 เม.ย.2563)
ในกองทุนนี้ผู้จัดการกองทุนจะใช้กลยุทธ์ที่เน้นการวิเคราะห์แบบ Top-down เป็นหลัก ในการเลือกหุ้นเข้าพอร์ต (Core portfolio) และใช้ Bottom-up เป็นส่วนเสริมในการหาผลตอบแทนเพิ่ม (satellite) ซึ่งเชื่อว่าจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนชนะตลาดได้ โดยพอร์ตกองทุนในช่วงแรก จะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET50 เป็นหลักก่อน เนื่องจากคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่นำทิศทางตลาดและมีความมั่นคงสูง โดยเน้นไปที่หุ้นที่ราคาไม่แพง ผสมผสานกับหุ้นเติบโตที่คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนได้สูงในระยะยาวหลังตลาดกลับมาฟื้นตัวได้
กองทุนเปิดธนชาต อีสท์สปริง หุ้นทุนปันผล เพื่อการออมพิเศษ หรือ T-ES-EQDSSFX เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยขนาดใหญ่ พื้นฐานดี และหุ้นเติบโตสูง โดยกองทุนนี้ถือเป็นกองทุน SSF พิเศษ (เพื่อการออมพิเศษ) ที่จะเปิดเสนอขายเพียง 3 เดือน ต้องลงทุนวันสุดท้ายภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เท่านั้น ถึงจะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีพิเศษ ซึ่งกองทุนนี้จะเปิดขายครั้งแรกในวัน 1-8 เมษายน 2563 ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 บาท