บล.เออีซี มองภาพรวมการลงทุนปีนี้ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ฝ่ายวิจัยให้กรอบดัชนีที่ 1,897 – 1,953 จุด ด้าน CEO “ ชนะชัย จุลจิราภรณ์ ” เร่งเดินหน้าวางกลยุทธ์เพิ่มช่องทางการลงทุน มั่นใจปีนี้ ปีทองแห่ง AECS พร้อม ลุยธุรกิจโบรกเกอร์ – IB และชูนวัตกรรมเครื่องมือเทรด อาทิ BLOCK TRADE และ AI TRADE สร้างมูลค่าเพิ่มด้านการลงทุน หวังตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จํากัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยถึงภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นว่า AECS มองทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้ มีแนวโน้มปรับตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยฝ่ายวิจัยของAECS ได้ให้กรอบการแกว่งตัวของดัชนีที่1,953 จุด เนื่องจากมองว่าตัวเลข GDP Growth ในปี 2561 มีการเติบโตต่อเนื่อง ตามการคาดการณ์ของสภาพัฒน์ และธนาคารแห่งประเทศไทยประเมินการเติบโตของ GDP จะขยายตัวอีก 4%YoY ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐส่งผลให้ตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศมีการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น
สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาในปีนี้ ยังคงเป็นเรื่องการเลือกตั้ง ที่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะสามารถดำเนินการได้เร็วมากน้อยแค่ไหน รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีแนวโน้มปรับขึ้นในปีนี้ อย่างน้อย 3 ครั้งหรือสู่ระดับ 2.25% สูงกว่าดอกเบี้ย RP ของไทยที่ยังไม่ขยับจากระดับ 1.50% มาเป็นเวลานาน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยังกล่าวถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมนายหน้าค้าหลักทรัพย์(โบรกเกอร์)ว่า ภาคการแข่งขันในธุรกิจดังกล่าวยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โบรกเกอร์ในแต่ละแห่งต้องมีการปรับตัวเพื่อพัฒนาระบบ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มนักลงทุนที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งAECS ได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินงานโดยการเพิ่มเครื่องมือในการรองรับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ ธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (Securities Borrowing and Lending : SBL) การซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์สที่อ้างอิงราคาหุ้นแบบรายใหญ่ หรือ Single Stock Futures (SSF) Block Trade ระบบการเทรดหุ้นด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI ) ภายใต้ชื่อ AIPRO ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มสัดส่วนลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากAECS ได้มีการเปิดตัว AIPRO ในช่วงปลายปี2560 ที่ผ่านมา
ล่าสุดบริษัทฯมีลูกค้าที่เปิดพอร์ตแล้วกว่า 300 บัญชีโดยบริษัทฯตั้งเป้าว่าจะมีสัดส่วนการเปิดบัญชีที่เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 บัญชี ส่วนบัญชีการซื้อขาย Single Stock Futures ที่โบรกเกอร์จะเข้าเป็นคู่สัญญาฝั่งตรงข้ามให้กับลูกค้า ในการซื้อขาย Single Stock Futures นั้น ปัจจุบันมีการเปิดบัญชีดังกล่าวเข้ามาแล้วจำนวน 600 บัญชี และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามเป้าที่วางไว้จำนวน 1,000 บัญชีได้ภายในปีนี้
ทั้งนี้ นอกจากเครื่องมือการลงทุนในตลาดหุ้นในข้างต้นแล้ว บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับธุรกิจด้านวาณิชธนกิจ(IB) อย่างต่อเนื่อง โดยภายในปีนี้บริษัทฯเตรียมได้รับแต่งตั้งเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน และมีแผนในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 5-6 บริษัท โดยมีมูลค่าการระดมทุนรวมประมาณ 4-5 พันล้านบาท รวมถึงเตรียมเข้าเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่าย (CO Underwriter)บริษัทที่เตรียมเข้าระดมทุนอีกหลายแห่ง
“ ต้องยอมรับว่าในปีนี้ AECS มีความโดดเด่นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการผ่านช่องทางด้านการลงทุน หรือแม้แต่การนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้เป็นผลจากการที่บริษัทฯมีช่องทางให้บริการลูกค้าที่หลากหลาย และทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละโปรดักทางธุรกิจ ซึ่งถือได้ว่าเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะขับเคลื่อนองค์กร ให้มีความแข็งแกร่ง ” นายชนะชัย กล่าว