HoonSmart.com>> พลังงานบริสุทธิ์เผยปี 63 กำไรนิวไฮ ตั้งงบลงทุนเกือบ 7.4 พันล้านบาท ลุยธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ ส่วนไวรัสโควิดกระทบบ้าง ส่งมอบรถ EV ล่าช้า จากเดิม 5 พันคัน เรือ E-Ferry นำเข้าอุปกรณ์ไม่ได้ ไบโอดีเซลยอดการขายลดลง
นางออมสิน ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในปี 2563 บริษัทฯยังคงเป้ารายได้ไว้ที่ 24,000 ล้านบาท และคาดจะมีกำไรสุทธิสูงสุดอีกครั้ง(นิวไฮ) จากปีที่แล้วสามารถทำกำไรได้สูงสุด เนื่องจากรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า ขนาดกำลังการผลิตรวม 664 เมกะวัตต์(MW) เต็มปี และจะเริ่มเห็นผลงานจากธุรกิจใหม่ๆ ที่จะทยอยเข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป เช่น ผลิตภัณฑ์สารเปลี่ยนสถานะหรือ Bio-PCM ที่เป็นนวัตกรรมและเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท จะเริ่มส่งออกตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป, และเรือไฟฟ้าที่จะให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยา
อย่างไรก็ตาม มีบางธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เช่น ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า EV เดิมคาดว่าจะส่งมอบรถยนต์ได้ 5,000 คัน จะล่าช้าจากแผนที่วางไว้ เริ่มทยอยส่งในช่วงไตรมาส 3 และธุรกิจไบโอดีเซลจะมีปริมาณการขายที่ลดลง เนื่องจากการเดินทางที่ลดลง และธุรกิจเรือไฟฟ้า E-Ferry นำเข้าอุปกรณ์ล่าช้า แต่ปัจจุบันเรือสร้างเสร็จแล้ว 1 ลำ และอีก 1 ลำใกล้เสร็จแล้ว โดยในไตรมาส 2 จะแล้วเสร็จอีก 10 ลำ และสิ้นปีอีก 20 ลำ ซึ่งจะสามารถเริ่มดำเนินการให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 2 นี้
สำหรับแผนการลงทุน ตั้งงบไว้ประมาณ 7,388 ล้านบาท ส่วนใหญ่หรือประมาณ 43% ใช้ลงทุนในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ขนาดกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ ซึ่งผลิตแบตเตอรี่และนำมาใช้ภายในหน่วยธุรกิจอื่นๆ ของบริษัท ธุรกิจเรือไฟฟ้าใช้งบ 19% และ รถยนต์ EV อีก 16%
” การขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ จะทำให้โครงสร้างรายได้ในปี 2564 เปลี่ยนแปลง ธุรกิจไฟฟ้าสัดส่วนลดลงอยู่ที่ 51% จากเดิม 74% ธุรกิจไบโอดีเซลลดลงอยู่ที่ 17% จาก 25% โดยจะเพิ่มธุรกิจ EV เป็นสัดส่วน 27% และเรือไฟฟ้ากับสถานีชาร์จไฟฟ้าอีก 1%”นางออมสินกล่าว
ในปี 2562 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,082 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18 % จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,148 ล้านบาท หากไม่รวมกำไรทางบัญชีที่เกิดจากการรวมกิจการ Amita Technologies Inc ไต้หวันที่เกิดขึ้นในไตรมาสที่ 1/2561 จำนวน 895 ล้านบาท จะทำให้ปี 2562 มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นถึง 49% โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 14,955 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 12,490 ล้านบาท และจะมีรายได้รวมจากการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นถึง 29% นับเป็นสถิติสูงที่สุดของบริษัท
บริษัทฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,119 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา 28.63% ของกำไรสุทธิตามงบเฉพาะกิจการ