HoonSmart.com>> บลจ.วรรณ แนะผู้ลงทุนลดพอร์ตลงทุนตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง “กองทุน ONE-HYPER” เปิดขายเฉพาะรายใหญ่ รอสรุป 31 มี.ค.ก่อนเคาะเลิกกองทุน ยัน “ไม่มีดีฟอล์ต แพนิคขาย” เน้นตราสารคุณภาพดี มั่นใจมาตรการธปท.เพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุน ด้าน KGI ผู้ถือหุ้นใหญ่-แบงก์ต่างชาติพร้อมซัพพอร์ตสภาพคล่อง
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ (ONEAM) เปิดเผย www.HoonSmart.com ว่า บริษัทฯ ได้วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ในช่วงที่ผ่านมา หลังเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 กระทบตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้ผันผวนอย่างรุนแรง บริษัทฯ จึงแนะนำให้ผู้ลงทุนลดสัดส่วนการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะกองทุนเปิดวรรณ ไฮเปอร์ไฟแนนเชียล อินสตรูเมนท์ ฟันด์ ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (ONE-HYPER) ซึ่งลงทุนตราสารหนี้คุณภาพระดับ investment grade สัดส่วน 96% ส่งผลให้กองทุนมีขนาดลดลง
นายพจน์ กล่าวว่า หลังให้คำแนะนำพบผู้ถือหน่วยลงทุนส่งคำสั่งขายและสับเปลี่ยนกองทุน ONE-HYPER ออก โดยตอนนี้เริ่มมีคำสั่งขาย 50% ของกอง จึงต้องรอดูคำสั่งดังกล่าวจะยืนยันเหมือนเดิมหรือมีเพิ่มหรือไม่ จึงจะตัดสินใจว่าจะเลิกกองทุนหรือไม่ เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหน่วยทุกรายในต้นสัปดาห์ที่จะถึงนี้ เนื่องจากกองทุนนี้เปิดให้ซื้อทุกวันทำการและขายคืนทุกสิ้นเดือน ดังนั้น บริษัทฯ จึงอยู่ระหว่างรอสรุปตัวเลข เนื่องจากหากขนาดกองทุนเล็กมาก อาจทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่เหลืออยู่มีค่าใช้จ่ายของกองทุนสูง ทำให้ผลตอบแทนโดยรวมลดลง
สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับการลงทุนในตราสารหนี้ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดจากคุณภาพเครดิต ซึ่งไม่มีบริษัทไหนมีปัญหาและชำระหนี้คืนไม่ได้ แต่เป็นผลกระทบโดยรวมจาก COVID-19 ทำให้นักลงทุนกังวลและอาจต้องการถือเงินสด จึงแนะนำลูกค้าลงทุนในกองทุนเปิดวรรณพันธบัตรไทย (1AM-TG) เน้นลงทุนพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ กองทุนเปิดวรรณเดลี่ (1AM-DAILY)
“การพิจารณาปิดกองทุน ONE-HYPER ไม่ได้เกิดจากลูกค้าแพนิคมาไถ่ถอนหน่วยลงทุนหรือเกิดการผิดนัดชำระ (ดีฟอล์ต) ของหุ้นกู้ แต่เกิดจากการประเมินสถานการณ์ พร้อมให้คำแนะนำลูกค้าในภาวะตลาดเช่นนี้ เพราะหากตลาดเกิดผันผวนรุนแรงอาจทำให้นักลงทุนกังวล”นายพจน์ กล่าว
สำหรับกองทุน ONE-HYPER ไม่ได้เปิดขายนักลงทุนรายย่อย โดยกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท ปัจจุบันมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) จำนวน 448.28 ล้านบาท NAV ต่อหน่วย 11.0534 บาท ข้อมูล ณ วันที่ 27 มี.ค.2563
ส่วนกองทุนภายใต้บริหารของบลจ.วรรณกองอื่นๆ ที่เหลือ ยังบริหารจัดการได้ตามปกติแม้ภาวะตลาดยังมีความผันผวน โดยกองทุนตราสารหนี้จะเน้นลงทุนตราสารหนี้คุณภาพ มีความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ต่ำและราคาสินทรัพย์ดังกล่าวคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากนโนบายเสริมสภาพคล่องของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งทำให้สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้ผู้ลงทุนได้ ซึ่งกองทุนตราสารหนี้ของบลจ.วรรณเข้าเกณฑ์รับความช่วยเหลือจากธปท.ได้ทุกกองทุน
นอกจากนี้บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (KGI) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และธนาคารต่างชาติ พร้อมที่จะเข้ามาเสริมสภาพคล่องให้แก่กองทุนตราสารหนี้ของบลจ.วรรณ
นายพจน์ กล่าวว่า หลังจากธปท.มีมาตรการเสริมสภาพคล่องให้แก่กองทุนตราสารหนี้ในระบบ ส่งผลดีต่อตลาดและอุตสาหกรรมโดยรวม สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน เนื่องจากกองทุนเสริมสภาพคล่องขนาดเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 70,000 – 100,000 ล้านบาท จะช่วยเหลือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่ครบกำหนดและต้องการต่ออายุ (Rollover) จึงสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ตลาดและลดอาการแพนิคของนักลงทุนในตลาดตราสารหนี้ได้