ตลท.ศึกษา “ตั้งกองพยุงหุ้น-ห้ามชอร์ต” ชูบจ.ถูก ไทยดิ่งมากสุดในโลก 30%

HoonSmart.com>>”สมคิด”สั่งคลังตั้งกองทุนพยุงหุ้น ตลาดขอเวลาศึกษารูปแบบ กำลังพิจารณากติกาซื้อขาย เช่น ชอร์ตเซล หลังหุ้นไทยดิ่งแรงที่สุดในโลก 30% วันที่ 12 มี.ค.สั่งเบรกซื้อขาย 30 นาที ดัชนีไหลลง 10% ต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี นักวิเคราะห์ยกสถิติใช้มา 3 ครั้ง หลังจากนั้นเด้ง ดีบีเอสฯคาดบวก 80-100 จุด ตลท.กางข้อมูลบจ.ถูกและดีหลายตัว สมาคมนักวิเคราะห์ฯเสนอ CPALL-ADVANC-SCC-BDMS-GULF-PTTEP-KBANK-SCB แบงก์ไทยพาณิชย์ประกาศทุ่มเงิน 16,000 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืน 4% ฝืนตลาดไม่ไหว ราคาเละ 10%  ธนาคารกลางยุโรปไม่ลดดอกเบี้ย ตลาดหุ้นสหรัฐใช้ Circuit Breaker อีกครั้ง

วันที่ 12 มี.ค. 2563 เป็นวันประวัติศาสตร์วันหนึ่งของตลาดหุ้นไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศใช้ Circuit Breaker พักการซื้อขายหุ้นเป็นเวลา 30 นาที เริ่มตั้งแต่เวลา 14.58 น. และเปิดซื้อขายเวลา 15.08 น. เมื่อดัชนีไหลลงมาแตะ 10% หรือ -125.05 จุด อยู่ที่ 1,124.84 จุด แต่ไม่สามารถสกัดแรงขายหุ้นได้ สุดท้ายดัชนีปิดที่ 1,114.91 จุด ลดลง 134.98 จุดหรือ -10.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 101,652 ล้านบาท

บล.เอเซียพลัสเปิดเผยค่าเฉลี่ยการสั่งพักการซื้อขาย 3 ครั้งที่ผ่านมา วันที่ประกาศใช้ Circuit Breaker หุ้นลง 11.60% แต่หลังจากนั้นเด้งขึ้น วันแรก +6.4% รวม 3 วัน +7.1% และ 1 สัปดาห์เพิ่มขึ้น 10.3% บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ใช้เทคนิคมาวิเคราะห์ คาดว่าหุ้นจะเด้งขึ้น มีโอกาสบวก 80-100 จุด หลังจากนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เข้ามากระทบ

ตลาดหุ้นที่ทรุดลงแรงเกิดจากฝีมือสถาบันทิ้งหุ้น 4,636 ล้านบาท พอร์ตบล.ขายด้วย 4,077 ล้านบาท รายย่อยซื้อกลุ่มเดียว 10,643 ล้านบาท ต่างชาติขายหุ้น 1,928 ล้านบาท ซื้อฟิวเจอร์ส 28,233 สัญญา

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เร่งศึกษาจัดตั้งกองทุนสร้างเสถียรภาพตลาดทุน หรือ กองทุนพยุงหุ้น เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ปกติอย่างรุนแรง การแพร่ระบาดไวรัสควิด-19 จนสหรัฐฯ มีคำสั่งห้ามยุโรปเดินทางเข้า ส่งผลต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงไทยด้วย แม้ว่าหุ้นไทยมีพื้นฐานดีมาก แต่เมื่อโลกเกิดตื่นตระหนกจนหุ้นตกหนัก รัฐบาลก็จำเป็นต้องดูแล ในอดีตไทยเคยมีกองทุนวายุภักษ์เข้าไปช่วยพยุงหุ้น แต่รอบนี้อาจต้องใช้กลไกอื่นที่ซับซ้อนมากกว่านั้น และจำนวนเงินเท่าไรต้องขอดูความเหมาะสมก่อน ซึ่งปกติการตั้งกองทุนลักษณะนี้ ระยะยาวจะมีกำไร สร้างความมั่นใจให้กับตลาดทุน

นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง เตรียมมาตรการดูแลผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสชุดที่ 2 และเตรียมกระตุ้นเพิ่มเติมช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.63 อีกด้วย เ

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ได้ชี้แจงสถานการณ์ตลาดหุ้นต่อเนื่อง และจะออกมาตรการมาดูแล หากจำเป็นจะเสนอนายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาตรการดูแลตลาดหุ้นต่อทันที แต่คลังไม่มีแนวคิดลดภาษีเพื่อกระตุ้นการลงทุนในตลาดหุ้น

สถานการณ์ตลาดหุ้นที่ทรุดลงแรงเกิน 10% ครั้งนี้ ทำให้นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต้องออกมาแถลงข่าวถึง 2 ครั้ง กล่าวว่า หลังจากประกาศ Circuit Breaker อาจจะมีมาตรการต่างๆออกมาช่วยตลาดหุ้น แต่ต้องพิจารณาสถานการณ์อย่างละเอียด จะปรับปรุงเกณฑ์อะไรต้องคิดรอบคอบ เพราะเซนซิทีฟ ตอนนี้ศึกษาทุกอย่างไม่เฉพาะชอร์ตเซล เพื่อที่จะต้องการให้ตลาดกลับมาได้เร็ว ดูทุกช่องทาง

ส่วนการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้น กำลังศึกษาเช่นกัน เพื่อหาหลักการและวิธีการที่ดีที่สุด เพราะไม่มีกองทุนมานานมาก ด้วยโครงสร้างแบบนี้จะมีหน้าตาอย่างไร

นายภากรกล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงมาก เทียบกับตลาดหุ้นโลก ทำให้มีหุ้นจำนวน 448 บริษัท ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่ากิจการ(P/BV) และ 231 หุ้น ราคาต่ำสุดในรอบ 5 ปี ราคาลงมาน่าสนใจ เป็นโอกาสซื้อเพื่อออม แต่ยากที่จะบอกว่าจุดต่ำสุดแล้ว นอกจากนักลงทุนควรกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลาย ได้แก่ ตราสารหนี้ ทองคำ และหุ้น ซึ่งหุ้นควรกระจายการลงทุนทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการและกรรมการผู้อำนวยการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) กล่าวว่า ขอให้นักวิเคราะห์ปรับปรุงบทวิเคราะห์ใหม่ทันสถานการณ์ ให้ราคาน้ำมันเฉลี่ยปีนี้ 46 ดอลลาร์/บาร์เรล บางแห่งใช้ 40 ดอลลาร์ ราคาน้ำมันที่ทรุดลง ส่งผลลบต่อหุ้นบริษัทปตท.(PTT) และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)  แต่บริษัทยังมีกำไรต่อหุ้นสูงใช้ได้ในปีนี้ คาด PTTEP มีกำไร 6 บาทเศษ ให้ราคาเป้าหมาย 98 บาท อัตราผลตอบแทน 4.8% ราคาเทรดที่ P/E 11 เท่า P/BV เหลือ 0.7เท่า ส่วน PTT ก็มีกำไรต่อหุ้น และปันผลที่ดี

นอกจากนี้ยังมีหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวที่มีพื้นฐานแข็งแรง และจ่ายเงินปันผลดี เช่น ADVANC แม้ว่ากำไรจะทรงตัวในปีนี้ เทรดที่ P/E 17 เท่า ผลตอบแทนปันผล 4.5%  หุ้น SCC P/E 11 เท่า อัตราผลตอบแทนปันผลเกือบ 5% ส่วนแบงก์ใหญ่ ซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี KBANK ปันผลมากกว่า 4%  ราคาหุ้น SCB  ตอนนี้คาดปันผล 7%

อ่านประกอบ

“หยวนต้า” ลุ้นหุ้นเด้งหลัง Circuit ยกสถิติ 3 ครั้งที่ผ่านมา