คลุกวงในหุ้น
โดย… สุนันท์ ศรีจันทรา
HoonSmart.com “เสนอความจริง ทุกการลงทุน” ปีที่ 1 วันที่ 12 มิ.ย.2561
หุ้นบริษัท ดิจิตอลเทค แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ DIGI ทรุดลงมาต่อเนื่อง หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศลงโทษทางแพ่ง ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารบริษัทพร้อมพวกรวม 7 คน ในความผิดฐานสร้างราคาหุ้น โดยปรับเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 120 ล้านบาท
ก.ล.ต.ประกาศกล่าวโทษนายปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่และอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DIGI เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา และตั้งแต่วันนั้น ราคาหุ้นยังไม่มีโอกาสผงกหัวขึ้น ล่าสุดวันจันทร์ที่ผ่านมาถอยลงมาปิดที่ 46 สตางค์
DIGI เข้าตลาดหุ้นเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2521 โดยเปลี่ยนชื่อแล้วหลายครั้ง จากบริษัท บางกอก ไนล่อน จำกัด หรือ BNC เป็นบริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ABC ก่อนจะเปลี่ยนเป็น DIGI
แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทอะไรก็ตาม หุ้นตัวนี้ไม่สามารถยกระดับเป็นหุ้นชั้นดีที่นักลงทุนให้ความนิยมได้ เพราะผลประกอบการย่ำแย่มาตลอด
แม้ไม่เกิดคดีฉาวโฉ่ การปั่นหุ้น DIGI ก็พร้อมจะปรับฐานลงอยู่แล้ว เพราะปัจจัยพื้นฐานอ่อนแอมาก ผลประกอบการขาดทุนหลายปี
DIGI มียอดขาดทุนสุทธิ สูงกว่ายอดรายได้ 3 ปีติดต่อกันแล้ว โดยปี2558 มีรายได้รวม60.30 ล้านบาท แต่มียอดขาดทุนสุทธิ 73.32 ล้านบาท ปี2556 มีรายได้รวม 56.21 ล้านบาท แต่มียอดขาดสุทธิ 108.68 ล้านบาท และปี 2560 มีรายได้รวม 85.59 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิ 168.91 ล้านบาท เนื่องจากมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายสูง
ผลขาดทุนติดต่อ ทำให้ยอดขาดทุนสะสมมีจำนวนทั้งสิ้น 440.41 ล้านบาท และกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ฐานะน่าเป็นห่วง เพราะหากขาดทุนต่อไป อาจมีปัญหาด้านฐานะทางการเงิน จนต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูฐานะการดำเนินงานได้
พี/อี เรโช DIGI ไม่อาจคำนวณได้ เงินปันผลไม่เคยจ่าย แนวโน้มผลประกอบการไม่สามารถประเมิน เพราะการที่ผู้บริหารบริษัทถูกกล่าวโทษคดีปั่นหุ้นจะทำให้ภาพลักษณ์องค์กรตกต่ำ ทำให้นักลงทุนไม่เชื่อมั่น จนส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อการดำเนินธุรกิจ
ผลประกอบการปกติของ DIGI ไม่ดีอยู่แล้ว เมื่อมีข่าวลบกระทบต่อองค์กร แนวโน้มผลดำเนินงานอาจเลวร้ายลง ฉุดให้ราคาหุ้นดิ่งลงเหวลึก
ผู้ถือหุ้น DIGI มีจำนวนทั้งสิ้น 5,962 ราย แน่นอน ทุกคนบาดเจ็บจากหุ้นตัวนี้ ต้องแบกหุ้นต้นทุนสูงไว้ โดยหวังว่า ผลประกอบการบริษัทจะกระเตื้องขึ้น กระตุ้นให้ราคาหุ้นดีดกลับ
แต่ความหวังของนักลงทุนที่ถูกแขวนอยู่ในหุ้น DIGI จะเป็นไปได้ขนาดไหน เพราะสิ่งที่เห็นอยู่คือ ราคาหุ้นยังซึมซับรับข่าวร้ายต่อไป โดยทรุดตัวลงใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 12 เดือนที่ราคา 35 สตางค์แล้ว
นางสาวฐิตินาถ ณ พัทลุง หรือ ครูอ้อย เจ้าของหลักสูตรอบรม “เข็มทิศชีวิต” ซึ่งเคยตกเป็นข่าวใหญ่ ถูกกล่าวหาว่าชักชวนนักลงทุนมาซื้อหุ้น DIGI จนเกิดความเสียหายนับสิบล้าน ยังถือหุ้นตัวนี้อยู่จำนวนกว่า 23 ล้านหุ้น หรือ สัดส่วน 2.9%ของทุนจดทะเบียน โดยไม่ยอมขายทำกำไรออก แม้ในข่วงที่มีการปั่นหุ้นขึ้นไปที่ระดับ 7.80 บาท
และไม่ยอมทิ้งหุ้น DIGI แม้ในช่วงที่บริษัทถูกมรสุมข่าวร้ายกระหน่ำใส่ก็ตาม
ครูอ้อยอาจตัดสินใจแล้ว ยอมตายพร้อมกับ DIGI
แต่นักลงทุนทั่วไป คงไม่ยอมตายกับหุ้นตัวนี้แน่ เพียงแต่ยังตัดใจขายขาดทุนไม่ไหวเท่านั้น ทั้งที่ในเชิงกลยุทธ์ ควรทิ้งหุ้น DIGI ออกไปก่อน
เพราะอนาคตหุ้นตัวนี้มืดมน ไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวกลับแต่อย่างใด